Ancient Strengthening Technique: Chapter 0056

Ancient Strengthening Technique: Chapter 0056




Ancient Strengthening Technique: Chapter 0056

เจอกับ สือชิงจวง อีกครั้ง

ฝากกด like ติดตามเพจด้วยนะครับ https://www.facebook.com/Dogdatachill




*****************



*****************

Ancient Strengthening Technique  0056 เจอกับ สือชิงจวง อีกครั้ง


*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-

จาก ชิงชิ เปลี่ยนเป็น ชิงสือ นะครับ เพื่อนที่มาเมืองร้อยไมล์ด้วยกันน่ะ
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-


มองไปยัง ซือตูปู้ฝาน ชิงสุ่ย โบกมือเล็กน้อยปัดฝุ่นที่กระจายอยู่รอบๆ บนพื้นมีร่างที่ไร้สติของเหล่าสหาย ซือตูปู้ฝาน


ความขมขื่นบังเกิดในหัวใจของ ซือตูปู้ฝาน กลุ่มเพื่อนๆโดยเฉพาะ สือจงเหยา จากตระกูล สือ ที่เป็นถึง ระดับ 5 ปราบฟ้า ยังพ่ายแพ้อย่างย่อยยับ


คิดย้อนไปเมื่อเขาแพ้ ชิงสุ่ย ที่หมู่บ้านตระกูลชิง หลังจากที่เขากลับมาเมืองร้อยไมล์ สือจงเหยา เป็นคนที่ตำหนิเขามากที่สุด และเป็นคนเรียกเขาว่าหัวหมูและตั้งชื่อที่น่ารักเกียจให้อีกสารพัด ทำให้ชื่อเสียงในเมืองร้อยไมล์ของเขาป่นปี้มากขึ้น และตอนนี้ เจ้าคนบ้านนอก เอาชนะ สือจงเหยา ได้ ไม่ใช่ว่ามันน่าอับอายมากกว่ามากกว่าที่เขาเป็นอยู่หรอกหรือ


นี่เป็นธรรมชาติของมนุษย์ เมื่อมีเพียงคนเดียวที่พ่ายแพ้ย่อยทำให้รู้สึกว่าเขานั้นไร้ประโยชน์ อย่าไรก็ตามท่ามกลางกลุ่มคนที่มีระดับการบ่มเพาะมากกว่ากลับพ่ายแพ้เขานั้นก็ไม่มีความอับอาสยอีกต่อไป มันเป็นความจริงที่ว่าคนที่อยู่ตรงหน้านั้นเขานั้นแข็งแกร่งมาก


ในขณะที่เกิดความวุ่นวายหลายอย่างขึ้นบนถนน ด้วยความที่ไม่อยากเป็นจุดสนใจมากเหมือนผู้คนที่กำลังเที่ยวชมสัตว์ที่ถูกขังในสวนสัตว์ ชิงสุ่ย จึงชี้ทางให้ ชิงสือ กับ ชิงชาน เพื่อเตรียมที่จะออกจากพื้นที่ อย่างไรก็ตามในขณะที่เขาหันหัวกลับในใจเขาก็เกิดความมึนงง เขากำลังอาการประสาทหลอนรึป่าว ใบหน้าที่เย็นชาของคนที่เขาเคยฝันถึงได้อยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้


สือชิงจวง!!!


สือชิงจวง เธอสวมกระโปรงสีแดงสดใจแววตาเต็มไปด้วยความสับสน เธอยืนอยู่ที่นั่นโดยไม่พูดอะไรซักคำและจ้องมาทางเขาอย่างเงียบๆ


ต้อนนี้ ชิงสุ่ย รู้สึกว่าหัวใจของเขาเต้นเร็วขึ้น คนที่เขาโหยหามาตลอดยืนจ้องหน้าเขาอยู่ในขณะนี้ แม้ว่าจะมีประสบการณ์สองชีวิตแต่เขาก็ยังคงบริสุทธิ์และยังไม่เคยมีประสบการ XXX กับเพศตรงข้าม แม้ว่าจะได้อ่านหนังสือเกี่ยวกับทฤษฎีการออกเดทมาจำนวนมากแต่มันจะเอามาเปรียบกับประสบการณ์จริงได้อย่างไร เขากัดริมผีปากบอกตัวเองว่าไม่ต้องกังวลขณะทักทาย สือชิงจวง


“ง...........ไง เป็นไงบ้าง จำข้าได้มั้ย ข้าคือคนที่เคยขี่ม้า เอ็มเบอไลอ้อน ในวันที่เจ้าไปเยี่ยมเยียมหมู่บ้าน ตระกูลชิง ไง” ชิงสุ่ย เกาหัวเล็กน้อยขณะฝืนยิ้มเพื่อปดปิดช่วงเวลาที่น่าอึดอันใจที่เขาได้พูดติดอ่าง



ใบหน้าของ สือชิงจวง ให้ความรู้สึกหนาวเย็นเล็กน้อยในขณะที่ริมฝีปากสีแดงเซ็กซี่ของเธอค่อยขยับลงไปเป็นรอยยิ้มที่บางเบา อ่า รอยยิ้มนั้นมันช่างคล้ายกับความสดใสของดวงอาทิตย์ที่ช่วงฤดูหนาวที่หนาวเย็นและลมแห่งความสุขที่พัดผ่านมาระหว่างความร้อนที่แผดเผาในฤดูร้อน ชิงสุ่ย พบว่าเขาลืมคำพูดที่เขากำลังเตรียมที่จะพูดในขณะที่เขาสูญเสียความเป็นตัวเองไปกับรอยยิ้มของเธอ

“ตามมา” เสียงที่เยือกเย็นและน่ารักของ สือชิงจวง ลอยขึ้นก่อนที่เธอจะหันและออกไป


ความรู้สึกซับซ้อนผสมกับความขมขื่นและหดหู่เกิดขึ้นในหัวใจของ ซือตูปู้ฝาน สือชิงจวง เป็นผู้หญิงที่ได้หมั้นไว้กับเขามาตั้งแต่กำเนิดและเธอไม่เคยแม้แต่ที่จะมองเขาเลยซักนิด


ชิงสุ่ย กระตือรือล้น ยิ้มกว้างบนใบหน้าของเขา  เขาโบกมือลา ชิงชิ และ ชิงชาน รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาเป็นสิ่งที่ผู้ชายทุกคนรู้เกี่ยวกับมัน เป็นรอยยิ้มที่เกิดจากหญิงสาว หลังจากทั้งคู่เดินจากไป ชิงสุ่ย ก็ไล่ตามเงาของ สือชิงจวง อย่างรวดเร็ว


หลังจากที่ ชิงสุ่ย ได้ยินคำพูด สือชิงจวง มันทำให้เขาสนใจ แม้ว่าเขาจะไม่ชอบผู้หญิงขี้เก๊กและหยิ่ง แต่กับเขา นี่คือบุคลิกของ สือชิงจวง นอกจากนี้เธอยังไม่ได้เหลือบมองที่คู่หมั้นของเธอเลย แต่กับคุยกับเขาแทน เขาเชียร์ตัวเองอย่างเงียบๆ “ฮ่าๆ ดูเหมือนช้าจะได้รับความนิยมโดยแท้ “ โดยไม่ต้องพูดถึงปัจจุบัน สือชิงจวง เป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดที่เคยพบมา


เบื้องหลังเขา ซือตูปู้ฝาน กัดฟันด้วยความหงุดหงิดเนื่องจากรูปลักษณ์ที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง ทิ้งไว้ด้านหลังของ สือชิงจวง และ ชิงสุ่ย เขาขบฟันขณะสาบานว่า “ ไอ่พวกสำส่อน วันหนึ่งข้าจะลูบไล้เธอต่อหน้าต่อตาเจ้า”


ขณะที่พวกเขาเดินไปด้วยกันไม่ว่าจะเป็นเรื่องบังเอิญหรือการกระทำที่วางแผนล่วงหน้าไหล่ของ ชิงสุ่ย ก็ถูกับ สือชิงจวง อย่างต่อเนื่อง


สือชิงจวง ยักคิ้วเล็กน้อยขณะที่เธอจ้องมองไม่ที่ ชิงสุ่ย ที่อยู่ข้างเธอ เธอประหลาดใจที่เธอค้นพบว่าเพื่อนตัวน้อยของเธอมีรูปลักษณ์ที่ปราณีตและมีใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสง่างามและมีความเป็นชายเล็กน้อย ดวงตามีความชัดเจน นี่เป็นผู้ชายที่รู้ว่าอนาคตเขาต้องการอะไร โดยไม่ได้ตั้งใจเธอไม่สามารถช่วยเปรียบเทียบกับคนที่เคยได้รับการ "ขัดเกลา" ที่อยู่รอบๆตัวเธอ  ผู้ซึ่งปรากฏความอ่อนโยนและใจดี แต่ในความจริงคนเหล่านั้นได้ตรวจเธออย่างไม่หยุดหย่อนด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความต้องการทางเพศ ความแตกต่างระหว่างพวกเขาคล้ายกับสวรรค์และโลก


ดวงตาของเขามีเสน่ห์มาก เป็นเสน่ห์ที่ทำให้คนอื่นอยากจะจ้องมองไปที่เขา หว่างคิ้วของเขาเป็นเหมือนวิญญาณผู้กล้าที่สามารถทำให้ผู้หญิงต้องการเข้าหา นอกจากนี้รอยยิ้มยังเต็มไปด้วยความร่าเริง แต่ สือชิงจวง สามารถบอกได้ว่ามันคือการแกล้งทำ เธอมองเห็นบางอย่างที่ซ่อนอยู่รอยยิ้มของ ชิงสุ่ย มันเป็นร่องรอยของลักษณะที่คล้ายคลึงกับเธอคือความโดดเดี่ยวและความภาคภูมิใจ โดยรวมแล้ว สือชิงจวง สรุปได้ว่าเพื่อนตัวน้อยคนนี้ช่างดูดี


ทันใดนั้นตัวของ สือชิงจวง แข็งทื่อนี่เธอกำลังวิจารณ์รูปร่างของเด็กหนุ่มที่อายุน้อยกว่าเธองั้นเหรอ


“พี่สาว จวง จ้องมองข้าทำไมเหรอ” ชิงสุ่ย พูดแทรกอย่างฉับพลันและคำเรียกหาก็ค่อนข้างเหมาะสม เนื่องจาก สือชิงจวง มีอายุมากกว่าเขา 5 ปี


หลังจากที่ได้ยินคำที่ใช้เรียกเธอ สือชิงจวง แทบจะกระโดดด้วยความตื่นตกใจ แต่ก็ระงับมันอย่างรวดเร็ว มันดูค่อนข้างถูกต้องสำหรับ ชิงสุ่ย ในการเรียกเธอเช่นนี้


“เจ้าไม่ทราบหรือว่าได้สร้างปัญหาไว้มากมาย” สือชิงจวง กล่าวอย่างสงบ


“ปัญหา ? เธอหมายถึงอะไร ใช่ขยะนั่นมั้ย ” ชิงสุ่ยตอบด้วยรอยยิ้ม ชิงสุ่ย รู้สึกว่าคำถามก่อนหน้านี้โดย สือชิงจวง มันเป็นนัยๆว่าเธอมีความกังวนแทนเขาซึ่งทำให้เขาอุ่นใจเล็กน้อย


“ขยะ เจ้ารู้มั้ยขยะพวกนั้นเป็นใคร” ริมฝีปาก สือชิงจวง ขลิบเบาๆราวกำว่าเธอกำลังพยายามระงับเสียงหัวเราะเพราะ ชิงสุ่ย คิดว่ามันเป็นเรื่องตลก


ชิงสุ่ย ส่ายหน้าจ้องไปที่ สือชิงจวง รอคำตอบจากเธอ


“เจ้าควรรู้ว่า ซือตูปู้ฝาน มาจากตระกูลมหาอำนาจ ซือตู หนึ่งในขยะพวกนั้นมีพี่ชายคนที่ 2 ของข้าคือ สือจงเหยา นอกจากนี้ยังมีผู้เยาว์ตระกูล ดิง เจ้ารู้มั้ยตระกูล ดิง นั้นมีขนาดใหญ่กว่าตระกูล ซือตู จริงๆแล้วเจ้าเป็นคนแรกในเมืองร้อยไมล์ที่สร้างปัญหากับ3มหาอำนาจของที่นี่”


“แย่สุดๆ” ชิงสุ่ย คิด ไม่คาดว่าพี่ชายของ สือชิงจวง จะอยู่ท่ามกลางคนกลุ่มนั้น อย่างไรก็ตามแม้จะอธิบายทุกสิ่งทุกอย่าง สือชิงจวง ก็ไม่รู้สึกไม่ดีหรือตำหนิใดๆ ที่เขาเอาชนะพี่ชายของเธอ


“แม้ว่าเจ้าจะเอาชนะคนเหล่านี้ได้ แต่เจ้าควรรู้ไว้ด้วยความสามารถของพวกเขาไม่มีทางใดที่จะทำให้พวกเขาเป็นบุคคลสำคัญของตระกูลใหญ่” พี่ชายคนที่สองขอข้าก็เช่นเดียวกันภายใต้การดูแลจากครอบครัวข้าด้วยความช่วยเหลือจากยาจิตวิญญาณนับไม่ถ้วนทำให้เขาไปถึง ปราบฟ้า ระดับ 5 แต่แล้วยังไงล่ะ มันทำให้เขาขาดประสบการณ์การต่อสู้จริง แม้แต่ระดับ 1 ที่ได้ฝึกฝนวิชาต่อสู้ที่แท้จริงยังเอาชนะเขาอย่างง่ายดาย” สือชิงจวง อธิบาย เธอขมวดคิ้วเล็กน้อยราวกับว่าพยายามเตือน ชิงสุ่ย ว่ามีบางอย่างที่พูดไม่ได้


“ฮิฮิ หรือว่าเจ้าเป็นห่วงข้า” ชิงสุ่ย ยิ้มราวกับว่าเขาไม่กลุ้มใจอะไรเลย



จบตอน 56

1 Comment:

ขอบคุณมากๆครับ


EmoticonEmoticon