Ancient Strengthening Technique: Chapter 0055

Ancient Strengthening Technique: Chapter 0055



Ancient Strengthening Technique: Chapter 0055

ยั่วยุ

ฝากกด like ติดตามเพจด้วยนะครับ https://www.facebook.com/Dogdatachill








*****************



*****************

Ancient Strengthening Technique  0055  ยั่วยุ



ซือตูปู้ฝาน เริ่มบ้าคลั่ง ชิงสุ่ยรู้ว่า ศักดิ์ศรีนั้นมีค่ามากกว่าชีวิต โดยเฉพาะกับ ซือตูปู้ฝาน ก็ดีมันไม่ใช่ปัญหาที่ชั้นจะราดน้ำมันลงในกองเพลิง


“ ท้าทายชั้น พวกแกไม่คู่ควร ถ้าทุกคนต้องการท้าทายชั้น แบบนั้นมันจะไม่ทำให้ชั้นเหนื่อยตายหรอกเหรอ “ ชิงสุ่ย ตอบไปอย่างเย็นชาโดยมีน้ำเสียงไม่พอใจ


ตั้งแต่แรกที่ได้พบผู้เยาว์เหล่านี้ ชิงสุ่ย ก็เกิดความไม่ประทับใจกับพวกเขา แม้ว่าระดับการบ่มเพาะของพวกเขาจะแข็งแกร่งเมื่อเฉลี่ยกับอายุ แต่ ชิงสุ่ย ก็รู้ดีว่าผลกระทบนี้ต้องเกิดจากยาเสริมพลังบางอย่าง สำหรับพวกที่อยู่ในระดับต่ำ ดินแดนบัญชาสวรรค์ ผลที่ได้คงมาจากยาจิตวิญญาณระดับสูงสุด เพราะยาถูกปรุงโดยนักปรุงยาระดับต่ำทำให้มันแทบจะไร้ผลกับผู้ที่มีความแข็งแกร่งระดับดินแดน บัญชาสวรรค์ หรือสูงกว่า


มองไปยังการใบหน้าของกลุ่มรุ่นเยาว์เศรษฐีอายุ 25-25 ปี แสดงไปถึงความหยิงและทะนงตัวอย่างเห็นได้ชัด พวกมันคิดว่าตัวเองมีอำนาจที่สุดในเมือง ร้อยไมล์แห่งนี้ ชิงสุ่ย รู้สึกเห็นใจกับความคิดของคนเหล่านี้


อย่างไงก็ตามตระกลูใหญ่ในเมืองร้อยไมล์ที่มีประวัติไม่กี่ร้อยปีคิดว่าลูกหลานของตระกูลเหล่านี้ควรได้รับการหนุนหลังจึงทำให้พวกมันมีความกล้าและภาคภูมิใจที่เป็นลูกของขุนนาง พวกนี้คงจะดูถูกพวกชั้นเป็นกบที่อาศัยใต้บ่อไม่มีแนวคิดเกี่ยวกับโลกภายนอก


“แกกกกกกกกกก  ” ซือตูปู้ฝาน ตะคอกด้วยคำพูด เขาไม่เคยเจอความอับอายขนาดนี้มาก่อนในชีวิต


“ หุบปาก คิดว่าชั้นกลัวแกรึไง ” คราวนี้ ซือตูปู้ฝาน ดึงดาบและชี้ไปทาง ชิงสุ่ย ขณะที่เขาท้าท้ายอีกครั้ง


ชิงสุ่ย ขมวดคิ้วตามกฎการต่อสู้ในโลกของเก้าอาณาจักรมีเพียงสองทางเลือกเมื่อมีคนชี้ดาบเพื่อท้าทาย ประการแรกคือยอมรับการต่อสู้ที่เดิมพันด้วยชีวิต ประการที่สองคือยอมจำนน!!!!!!!


ในตอนแรก ชิงสุ่ย ไม่ต้องการเปิดเผยความแข็งแกร่งของเขาเร็วเกินไปเมื่อมาถึงเมืองร้อยไมล์ แม้ว่าจริงๆแล้วเขามีความแข็งแกร่งมากกว่าคนรอบข้างในหมู่บ้านของเขา แต่เมื่อเทียบชนชั้นสูงทั้ง 4 แห่งเมืองร้อยไมล์แล้วยังห่างไกลมาก ความอ่อนแอของเขาไม่สามารถทำให้เขาเดินทางในเมืองโดยไม่มีใครขวาง แต่เขาก็ไม่ได้โง่ที่จะยอมให้คนดูถูก


ชิงสุ่ย ถอนหายใจ เขาอยู่ในสถานะการที่ยากลำบาก ถ้าเขายอมแพ้เขาก็ต้องสูญเสียเกียรติ ถ้าเขาชนะต้องเผชิญกับการท้าทายที่ไม่สิ้นสุด ถ้าเขาเอาชนะรุ่นเยาว์ทั้งหมดก็ไม่มีอะไรรับประกันว่าพวกตระกูลใหญ่ทั้งสี่จะไม่ไล่ล่าเขา มันเป็นทางเลือกที่ลำบาก



ยอมจำนนงั้นเหรอ ไม่มีทาง!! แม้ว่านักปราชญ์ที่แท้จริงจะไม่สนต่อคำยั่วยุ แล้วไงล่ะชั้นไม่ใช่นักปราชญ์ซักหน่อย

“เนื่องจากนายต้องการที่จะตาย ชั้นจะช่วยเอง ออกไปรอข้างนอกชั้นจะออกไปหลังจากซื้ออาวุธเสร็จ “ คิ้วของ ชิงสุ่ย เกิดรอยหยักเล็ก เขารู้ว่าท่าทางของรุ่นเยาว์พวกนี้เต็มไปด้วยความยะโส พวกเขาต้องการอยู่เหนือหัวคนอื่น


“เด็กนั่นดูมั่นใจมากๆ นายมั่นใจเหรอว่าจะจัดการเด็กนั่นได้” เด็กหนุ่มที่อยู่ข้างๆ ซือตูปูเฝาน พูดขึ้นขณะทั้งคู่เดินออกไปนอกร้านอาวุธ


“นายสงสัยชั้น วางใจได้ครั้งล่าสุยชั้นใช้มือเปล่า เพราะมันใช้ช่วงที่ชั้นประมาทโจมตีมา ครั้งนี้ชั้นจะทำให้มันรู้สึกถึงความแตกต่างระหว่างสวรรค์กับโลก ชั้นต้องการแสดงให้เห็นว่ามันเป็นแค่แมลงตัวเล็กๆ จะทำให้มันก้มหัวด้วยความอับอายและรู้ว่าเมืองร้อยไมล์ไม่ใช่สถานที่สำหรับมัน “ซือตูปู้ฝาน กัดพันพูดด้วยความเกลียดชัง


หลังจากให้ยินคำพูดนั้น ชิงสุ่ย ก็ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ ความเกลียดชังเหรอ ปล่อยให้ความเกลียดชังกัดกินมันไปสิความสามารถมันจะได้ลดลง โดยไม่ห่วงเรื่องเหล่านี้ ชิงสุ่ย เดินไปยังชั้นวางและเริ่มเลือกอาวุธ


เมื่อมองไปยังอาวุธที่ขายและตรวจสอบกระเป๋าเงินทำให้เขาถึงกับขากรรไกรค้าง “ ชิบหาย ดูเหมือนว่าชั้นจะซือได้แค่ ดาบธรรมดาๆทั่วไปเท่านั้น ลืมไปเลยว่าจำเป็นต้องซื้อดาบ “ ก่อนหน้านี้ ชิงสุ่ย ใช้ดาบเหล็ก สครายเรียส  [Scryrius Iron Sword] ในการฝึกวิชาดาบเขาใน ดินแดนหยกม่วงอัมตะ [Realm of the Violet Jade Immortal]


“เถ้าแก่ ช่วยขายดาบ ไม้เหล็ก [ironwood] นี้ให้ผมได้มั้ย “ มองไปยังดาบ ราคา 18 ซิลเวอร์ แม้มันจะดูดี แต่มันก็ดูเหมือนจะหนักกว่าที่คิดไว้ นอกจากนั้นขอบและปลายดายยังไม่คมเท่าที่ควร มันค่อนข้างหนาและทื่อเหมือนไม่ใช่อาวุธ มันเหมือนกับเครื่องประหรือของเล่นเด็กมากกว่า


“ราคานี้ไม่สามารถต่อได้ มันถูกทำขึ้นจากช่างตีเหล็กของเรา” เถ้าแก่วัยกลางคนกล่าวอย่างชัดเจน ไม่มีทางเลือกให้ ชิงสุ่ย เขายิ้มเล็กน้อยขณะซื้อมัน


เมื่อ ชิงสุ่ย เดินออกมาจากร้าน ศัตรูเขา ซือตูปูฝาน ก็รอต่อสู้อย่างใจจดใจจ่อ ดาบในมือของเขาสั่นจนไม่สามารถควบคุมได้


“แก ดี เยี่ยม เยี่ยมมาก....” หลังจากที่พูด ซือตูปู้ฝาน ดูโกรธมากจนถึงจุดเดือด คิดว่า ชิงสุ่ย ดูถูกเขามาก


ชิงสุ่ย ยักไหล่ไม่ใช่ว่าเขาไม่ต้องการซืออาวุธดีๆ แต่ด้วยจำนวนเงินที่เหลืออยู่ ไม่มีทางเลือกนอกจากสิ่งนี้ “ น่าเสียดาย ถ้าชั้นรู้ว่านายจะโกรธขนาดนี้ชั้นคงหยิบไม้แห้งมาท้าท้ายเจ้าน่าจะดีกว่า มันอาจทำให้นายโกรธจนเส้นเลือดแตกตายเลยก็ได้แบบนั้นมันจะช่วยชั้นประหยัดแรงได้เยอะ “


“ไอ่เด็กบ้านนอก แกต้องตาย”


แม้จะโดนดูถูก ชิงสุ่ย ก็ยังรู้สึกเฉยๆ เขาไม่อยากลดตัวลงไปอยู่ในระดับเดียวกับเจ้าพวกนั้น


ในสถานะการณ์แบบนี้ ซือตูปู้ฝาน ไม่ประมาทแม้แต่น้อย เขาค่อยๆดึงดาบสีฟ้าของเขาออกมา เวลานั้นเอง ตัวดาบส่องแสงสีฟ้าออกมาทำให้รู้สึกหนาวสั่นอุณหภูมิรอบๆลดลงอย่างรวดเร็ว


“ดาบเล่มนี้คือดาบน้ำแข็ง ชั้นจะใช้มันจัดการกับแก” หลังพูดจบ ซือตูกระโจนไปข้างหน้าด้วยความโกรธอย่างรวดเร็วดาบในมือเขาฟาดฟันเป็นแนวโค้งอย่างต่อเนื่อง เพื่อปิดเส้นทางการหลบหนีของ ชิงสุ่ย


“ก็ได้ ชั้นจะเล่นกับนายหน่อยแล้วกัน “ เทคนิค เล็นโด [ laido เทคนิคการใช้ดาบ] ที่ต้องเข้าใจจากบทสวดเพียง 3 คำ ได้รับการฝึกฝนมานับล้านๆครั้ง มันทำให้สภาวะบางอย่างของเขา เปลี่ยนไป เทคนิค เล็นโด ไม่มีอะไรพิเศษ มันดูเรียบง่ายธรรมดาเช่น รวดเร็ว เขาจะปลดกล่อยการโจมตีที่รวดเร็วที่สุดเร็วจนขอบเขตที่ตาไม่สามารถมองตามทัน


การจู่โจมด้วยดายของ ชิงสุ่ย ดูธรรมดาสามัญแต่เปล่งประกาย คนดูเกิดความตื่นตระหนกแม้กระทั่งตัวเขาเอง เพราะว่าการโจมตีด้วยดาบของ ซือตูปี้ฝาน นั้นไม่มีจิตสังหาร ชิงสุ่ยจึงไม่กังวล ก่อนการโจมตีจะมาถึงเขานั้น ชิงสุ่ย สามารถปลดปล่อยการโจมตีด้วยดาบได้เป็นร้อยครั้ง


“ เพี๊ยะ ” ดาบของ ชิงสุ่ยแทงเข้า มือขวาตรงข้อมือของ ซือตูปู้ฝาน ไม่เพียงความเร็วโจมจะเทียบเท่าสายฟ้า ทั้งยังมีความแม่นยำ  มันแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดขึ้นถ้าไม่ฝึกฝนวิชาดาบมาอย่างยาวนาน


ซือตูปู้ฝาน ยืนงงอยู่อย่างโง่เง่าไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เกิดความรู้สึกยากที่จะเชื่อที่เขาจะเป็นรองในการต่อสู้ ชิงสุ่ย มองไปยังการแสดงออกที่โง่งมของเขา


ซือตูปู้ฝาน เคยเห็นวิชาดาบที่ ชิงสุ่ย ใช้โจมตีมาก่อน “ชั้นไม่สามารถชนะมันด้วยมือเปล่าได้เพราะงั้นจึงใช้อาวุธแต่ข้ากลับพ่ายแพ้อย่างรวดเร็วก่อนหน้านั้นมันก็ใช้เพียงแค่หมัดเดียวเท่านั้น” ซือตูปู้ฝานคิด


“อะไรกัน เจ้าเด็กนี่ใช้ทักษะนั้น เป็นไปไม่ได้ ถึงแม้มันจะดูคล้ายกัน แม้แต่ความเร็วและความแรงยังทรงพลัง ดูจากรูปแบบดาบ มันก็ไม่น่าจะใช่” ซือตูปู้ฝาน บ่นพึมพำ


“สารเลวชั้นไม่รู้หรอกว่าแกใช้เวทมนตร์อะไร ลองชิมดาบของชั้นดูหน่อยเป็นไง” คนอื่นๆมองไปยัง ชิงสุ่ย ด้วยความตะลึง หลังจากนั้น ซือตูปู้ฝาน เริ่มใช้เทคนิคการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วขณะที่ปลดปล่อยการโจมตีด้วยดาบไปยัง ชิงสุ่ย


ชิงสุ่ย วิเคราะห์วิชาดาบฝ่ายตรงข้าม จากผิวดาบมีความดุร้ายรุนแรงและดูเหมือนมันกำลังพุ่งตรงมาทางเขา อย่างไรก็ตามอีกฝ่ายกลับก้าวไปด้านข้างและเปลี่ยนทิศทางการโจมตี ชิงสุ่ย รู้ดีว่ามันเป็นแค่การหลอกการจู่โจมจริงๆยังไม่ปรากฎ เขาแกล้งทำเป็นเปิดช่องว่างเพื่อให้เหยื่อโจมตี


ชิงสุ่ยคาดว่าเขาต้องโจมตีมาแน่ “ชาโดว์ อิลูชั่น ซวอร์ส”ฝ่ายตรงข้างคำราม เมื่อดาบอยู่ห่างร่างกายเพียง 3 นิ้ว ชิงสุ่ย หมุนตัวไปด้านซ้ายโดยใช้  ก้าวพริบตา [ของเดิมเป็น ก้าวไร้วิญญาณ Ghostly Steps] พลิกข้อมือของเขาควงดาบไว้ในมือทำให้ขอบดาบคล่ำลงบนพื้น ใช้แรงจากการหมุนตัวตวัดดาบขึ้นกระแทกกับร่างกายของอีกฝ่ายอย่างรุนแรงด้วยความเร็วที่น่าทึ่ง


“ฉับ!”


ชายหนุ่มหมดสติทันที ชิงสุ่ย ยั้งมือ มันง่ายพอๆกับพลิกฝ่ามือ ถ้าเขาต้องการเอาชีวิต


ด้วยความตกใจที่ ชิงสุ่ย เอาชนะสหายของเขา เหล่าผู้เยาว์ไม่สามารถทนต่อไปได้อีก พวกเขาดึงอาวุธออกมาและวิ่งเข้าไปหาชิงสุ่ย


มองไปยังใบหน้าที่กำลังโกรธ ซิงสุ่ย ส่ายหัวอย่างจนใจและเริ่มใช้ ก้าวพริบตา หนึ่งดาบหนึ่งสังหาร ตัวเขาหายไปเป็นเงาเลือนลางโผล่มาฟาดฟันศัตรูที่อยู่ข้างหน้าโดยพริบตา




จบตอน 55

2 Comment

ขอบคุณมากๆครับ

ใช้ ข้า เจ้า แทน ขั้น นาย จะเหมาะกับนิยายจีนมากกว่านะครับ


EmoticonEmoticon