Ancient Strengthening Technique: Chapter 0059

Ancient Strengthening Technique: Chapter 0059



Ancient Strengthening Technique: Chapter 0059

ชิงสุ่ยฝันหวาน

ฝากกด like ติดตามเพจด้วยนะครับ https://www.facebook.com/Dogdatachill




*****************



*****************

AST 0059 ชิงสุ่ยฝันหวาน

ชิงสุ่ย อยู่ในดินแดน หยกม่วงอัมตะจนถึงวินาทีสุดท้าย ก่อนที่จะโดนถูกขับออกมา ด้วยการที่มันเป็นสมบัติที่หาได้ยาก เขาจึงไม่ต้องการเสียผลประโยชน์จากมันแม้แต่นาทีเดียว


ไม่กี่วันผ่านมา ยังไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ จากผู้เยาว์ชนชั้นสูงของเมืองร้อยไมล์ ซึ่งทำให้ ชิงสุ่ย แปลกใจมากแม้จะคิดว่ามันแปลก แต่เขาก็ไม่คิดที่จะสูญเสียเหตุผลในการฝึกฝน เขาใช้เวลาอย่างเต็มที่ในการเพาะปลูกและเรียนรู้เกี่ยวกับสมุนไพรจิตวิญญาณต่างๆที่เขาได้ปลูกไว้ใน ดินแดนหยกม่วงอัมตะ


ตอนนี้พื้นที่ของเขาเต็มไปด้วยพืชสมุนไพรนานาพันธุ์ มีสีเขียวสีเหลืองสีแดงและสีอื่นๆแตกต่างกันไป ดูแล้วคล้ายกับสถานที่ท่องเที่ยวอันงดงามภายในดินแดนหยกม่วงอัมตะ


สมุนไพรจิตวิญญาณไม่ได้เป็นเพียงพืชที่ได้รับผลต่อการขยายตัวของเวลาที่ช่วยในการเติบโต แต่มันยังเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังปราณ จากการคาดเดาของ ชิงสุ่ย นอกจากการขยายตัวของเวลาแล้วบ่อน้ำคริสตัลที่เต็มไปด้วยปราณก็มีผลกระทบที่ดีต่อสมุนไพร


จากความรู้ที่เขาได้รับจากสวนร้อยสมุนไพร จะมีสมุนไพรบางอย่างที่แห้งเหี่ยวและตายไป อย่างไรก็ตาม สมุนไพรที่ปลูกไว้ดินแดนนี้กลับเต็มไปด้วยพลังปราณและดูเหมือนจะไม่มีทางเหี่ยวและตายไป


ชิงสุ่ย รู้สึกสุขใจ เขามีกำลังใจเพิ่มขึ้นเมื่อเห็นการเจริญเติมโตของสมุนไพรและภูมิปัญญาของเขา  เขามีสิ่งที่ให้พึ่งพาเหมือนกับเหล่าลูกชนชั้นสูงพึ่งพาทรัพยากรของตระกูล


อันที่จริงแล้วทรัพยากรมากมายพวกนี้ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 10 ปี ภายด้านในครบ 10 ปี หมายถึงเวลาด้านนอก 1000ปี สมุนไพรจิตวิญญาณก็จะมีอายุ 1000ปี แล้วใครล่ะที่จะสามารถผลิตสมุนไพรเหล่านี้ได้จำนวนมาก แค่คิดก็ทำให้ ชิงสุ่ย เต็มไปด้วยความตื่นเต้นอย่างที่สุด


เขาไม่ควรนับไก่ก่อนไข่จะฟัก เขาส่ายหัวเพื่อขจัดความคิด ชิงสุ่ย ไปตรวจสอบก้านไม่สีดำที่เขาได้ปลูกไว้ก่อนหน้านี้ พบว่าไม่เกิดการเปลี่ยนแปลง เขาตัดสินใจรดน้ำแล้วทิ้งไว้ในดินต่อไป ชิงสุ่ยไม่แน่ใจว่าก้านไม้สีดำหรือรากไม้นี้จะสามารถงอกและเติบโตได้หรือไม่


กิจการของร้านขายสมุนไพรตระกูลชิงค่อนข้างเชื่องช้าและไม่ยุ่งยาก ลูกค้าส่วนใหญ่ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นนักปรุงยาและร้านขายสมุนไพรจิตวิญญาณของเมืองร้อยไมล์ซึ่งเจ้าของร้านจะมาซื้อส่วนผสม


นอกจากนั้นแล้วยังมีประชาชนจากเมืองร้อยไมล์ที่เจ็บป่วยและขอความช่วยเหลือจากหมอ และยังมีลูกค้าที่ต้องการซื้อสมุนไพรหายากที่ไม่สามารถหาได้ตามร้านขายยาหรือร้านขายสมุนไพรอื่นๆอีกด้วย


นอกเหนือจากการขายสมุนไพรจิตวิญญาณ ร้านขายสมุนไพรตระกูลชิงยังได้สร้างอุปทานโดยการปลูกสมุนไพรเป็นของตัวเองและยังรับสมุนไพรจากที่อื่นด้วยเช่นกัน ส่วนหนึ่งของอุปทานของพวกเขามาจากสมุนไพรที่รวบรวมด้วยตัวเองตามภูเขา แน่นอนว่าการรับซื้อสมุนไพรจะราคาต่ำกว่าราคาขายอย่างมากเนื่องจากเขาต้องแปรรูปก่อนจะขายออก


อีกอย่างร้านขายสมุนไพรตระกูลชิงยังมีข้อตกลงกับ เมืองบ่อน้ำสววรค์ เขามักจะซื้อสมุนไพรหายากที่ไม่มีใน เมืองบ่อน้ำสวรรค์  โดยการแลกเปลี่ยนสมุนไพรที่หายากที่ไม่มีในเมืองร้อยไมล์ ซึ่งเป็นการค้าที่เหมาะสม


พูดถึง เมืองบ่อน้ำสววรค์ ชิงสุ่ยได้รับตักเตือนจาก เหลียน เย่เออ ว่าลูกพี่ลูกน้องเขา ชิง ฮู หื่นกระหายอย่างที่สุด แม้ว่า เหลียน เย่เออ จะสมบูรณ์แบบในรุ่นของเธอ ซึ่งมีรูปร่างสมกับเป็นผู้หญิงและมีเสน่ห์ เขาไม่สามารถช่วยอะไรได้ เพราะรู้สึกว่าเธอคงไม่คิดอะไร


ชิงสุ่ย ไม่คิดว่าเธอจะเป็นตัวปัญหา


เหตุผลที่ตระกูชิงสามารถทำข้อตกลงการค้ากับ เมืองบ่อน้ำสวรรค์ ซึ่งมีขนาดใหญ่และร่ำรวยกว่า เมืองร้อยไมล์ ได้นั้น เพราะ ตระกูลชิง มีความใกล้ชิดกับ ตระกูล หัว จาก เมืองบ่อน้ำสวรรค์


หัวหน้าตระกูล หัว ถูก ชิง หลัว ช่วยชีวิต ความสัมพันธุ์ของพวกเขาใกล้ชิกกันมากจนตัดสินใจเป็นพี่น้องร่วมสาบาน หลังจากนั้นพวกเขาก็ถามเกี่ยวกับที่มาของกันและกันและรู้ว่า คนนึงมาจาก เมืองบ่อน่ำสวรรค์ อีกคนมาจาก หมู่บ้านชิง


ชิง หลัว พบว่าพี่น้องร่วมสาบานของเขา ซุยหยุน มาจากตระกูล หัว ซึ่งเป็นหนึ่งในตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดใน เมืองบ่อน้ำสวรรค์ และยังเป็นผู้นำตระกูล หัว คนปัจจุบัน


แม้ว่าตระกูล หัว จะได้รับการพิจารณาให้เป็นตระกูลที่ทรงพลังใน เมืองบ่อน้ำสวรรค์ แต่ก็ยังคงมีตระกูลอื่น ๆ ที่มีสถานะและอำนาจสูงกว่า ถึงอย่างนั้นก็ใช่ว่า เมืองร้อยไมล์ จะสามารถเทียบได้



ชิงสุ่ย ได้ยิน ชิงอี้ พูดเมื่อเร็วๆนี้ว่า ผู้นำตระกูล หัว หัว ซุยหยุน ได้พยายามทะลวงระดับพลังไปยัง ดินแดน ปราณเทวะเซียนเทียน เพื่อยกระดับตระกูล หัว ในเมืองบ่อน้ำสวรรค์ ย้อนไปแต่ก่อนระดับพลังของเขาเท่ากับ ชิงหลัว แต่ตอนนี้เริ่มเห็นความแตกต่าง

เซียนเทียน และ โฮ่วเทียน มีความต่างกันราวกับคนละโลก ชิงหลัว อยู่ในระดับจุดสูงของ ดินแดน ปราณบัญชาสวรรค์ ระดับ 10 หรือ โฮ่วเทียน ตราบใดที่เขาสามารถก้าวเข้าไปใน ดินแดน เซียนเทียน ได้ล่ะก็เขาจะเป็นจากนอกกระจอกเป็นนกฟินิกซ์ทันที เป็นที่น่าเสียดายทั่วทั้งโลกเก้าทวีปมีคนมากมายมีระดับการบ่มเพาะเช่นเดียวกับ ชิงหลัว การเลื่อนระดับมันไม่ง่าย ความเป็นไปได้ที่จะสามารถก้าวไปยังดินแดน เซียนเทียน นั้นมีแค่ 1 ใน 10,000 ส่วน


นับตั้งแต่ หัว ซุยหยุน ล้มเหลวในการก้าวเข้าสู่ดินแดน เซียนเทียน เขาก็ให้ลูกชายของเขาเป็นผู้นำครอบครัว เขาย้ำเสมอว่าถ้า ตระกูลชิง ต้องการความช่วยเหลือ ตระกูลหัว ต้องช่วยอย่างถึงที่สุด และข้อตกลงการค้าเงินส่วนใหญ่จะไหลเข้าสู่ตระกูลชิง


ความสัมพันธ์ระหว่างสองตระกูลนั้นใกล้ชิดกันมาก หัว ซุยหยุน ได้ดูแล ชิงอี้ เสมือนลูกสาวเขามานาน ดังนั้นการติดต่อการค้าระหว่างตระกูลชิงกับตระกูลหัวจึงได้รับการจัดการโดย ชิงอี้


“ท่านแม่ ในอนาคตเมื่อท่านไปเยื่ยมเยียน เมืองบ่อน้ำสวรรค์ ท่านสามารถพาข้าไปด้วยหรือไม่ ข้าอยากไปเห็นสถานที่ต่างๆของเมืองบ่อน้ำสวรรค์” ชิงสุ่ย พูดออกมาหลังจากรู้รายละเอียดความสัมพันธ์ของทั้งสองครอบครัว


“แม่จะแนะนำเจ้ากับท่านปู่ให้” ชิงอี้ยิ้มตอบ


“ใช่แล้วตอนนี้สมุนไพรชุดล่าสุดที่มาจากเมืองบ่อน้ำสวรรค์ สมุนไพรจิตวิญญาณชนิดนี้เป็นอย่างไร” ชิงสุ่ยกำลังสั่นด้วยความตื่นเต้น แม้ว่าเขาจะรู้คำตอบ แต่ก็อยากถามเพื่อยืนยันข้อมูล


“นี่คือดอกไม่สี่กลีบ สมุนไพรจิตวิญญาณชนิดนี้เติมโตขึ้นเฉพาะหุบเขาสวรรค์บนแม่น้ำ ของเมืองบ่อน้ำสวรรค์เท่านั้น แม้ว่าจะดูธรรมดาแต่ประสิทธิภาพและประโยชน์กลับไม่ธรรมดาเลย นี่เป็นหนึ่งในส่วนผสมสำคัญในการทำยาครอบจักรวาลเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บร้ายแรงและในเมืองร้อยไมล์มีเพียงตระกูลชิงเท่านั้นที่มีสมุนไพรนี้”


“ตามคาดนั่นคือดอกไม้สี่กลีบ ชิงสุ่ยรู้สึกตื่นเต้นมากราวกับพบกับเพื่อนเก่า” ชิงสุ่ย จับดอกไม้ในมือตรวจสอบอย่างใกล้ชิด


“ดอกไม้สี่กลีบ เป็นหนึ่งในสมุนไพรที่อยู่ในเกม เวสเทิร์นแฟนตาซี ที่ ชิงสุ่ยเคยเล่นเมื่อย้อนกับไปในโลกก่อนหน้า คิดว่านี่คงเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าในเมืองร้อยไมล์ อยากไรก็ตามเขาไม่รู้ว่า ดอกไม่สี่กลีบ จัดอยู่ในระดับใด เขารู้แค่ว่าสมุนไพรจิตวิญญาณจัดอยู่ในระดับที่ 3 และมีเพียงนักปรุงยาเท่านั้นที่สามารถผสมยาได้”


ชิงอี้ จะไปเยี่ยมเยียนเมืองบ่อน้ำสวรรค์ปีละ 2 ครั้ง การเดินทางทุกครั้งใช่เวลาอย่างน้อย 1 เดือน การเยี่ยมเยียนครั้งแรกคือช่วงต้นปีและครั้งที่สองคือช่วงฤดูใบไม้ร่วง ชิงอี้ เพิ่งกลับมาจากการเยี่ยมเยียน เมืองบ่อน้ำสวรรค์ ครั้งต่อไปก็อีกประมาณครึ่งปี


“ท่านแม่ รู้หรือเปล่าว่าชนเผ่าใดแข็งแกร่งที่สุดในเมืองร้อยไมล์” ชิงสุ่ย ถามในขณะที่ ชิงอี้ เก็บชุดสมุนไพรจิตวิญญาณจากเมืองบ่อน้ำสวรรค์


“ชนเผ่าที่แข็งแกร่งที่สุด คือ ตระกูลสือ ตระกูลซือตู ตระกูลอวี้ ตระกูลดิง แต่สำหรับนักรบในตำนานที่อยู่ในดินแดน เซียนเทียน ไม่มีใครรู้ว่าอยู่ที่ใด มีไม่กี่คนที่อยู่ในระดับ เซียนเทียน เหล่านี้ยินดีที่จะอยู่ในเมืองเล็กๆเช่นนี้ เมืองขนาดใหญ่จะได้รับผลประโยชน์และทรัพยากรที่ดีกว่าดึงดูดให้นักรบดินแดน ปราณเซียนเทียน ให้เข้าร่วมกับเขา” ชิงอี้ อธิบายอย่างช้าๆ


“เจ้าของโรงเตี้ยม อวี้เหอ คนที่เจ้าเคยพบมาก่อนก็อยู่ในตระกูล อวี้” ชิงอี้ หัวเราะพร้อมกล่าวขณะที่จำได้ว่า อวี้เหอ ได้อยอกล้อ ชิงสุ่ย


“โอ้” ไม่คาดคิดว่าจะเป็นหญิงสาวที่เคยล้อเลียนเขามาก่อน ร่างของเธอดูสมส่วนหน้าออกกลมไม่ใหญ่เกินไป รูปร่างที่เรียวเล็กเหมาะสำหรับการกอดทั้งกลางวันกลางคืน ใบหน้าที่มีนัยยะเล็กน้อยกระตุ้นความรู้สึกได้เป็นอย่างมาก


สือชิงจวง เยือกเย็นและโดดเดี่ยวขณะที่ อวี้เหอ สง่างามและเจ้าอารมณ์ หนึ่งคือเจ้าหญิงน้ำแข็ง และอีกหนึ่งคือลูกแมวแสนซน


ต้องใช้เวลา 100 ปีที่ชะตากรรมจะทำให้พบพานในขณะใช้ที่ 1000 ปีเพื่ออยู่ร่วมชายคาเดียวกัน หึๆๆ การพบกับข้านั้นเท่ากันว่าพวกเรามีชะตาต้องกันนับพันๆปี ทั้งสองคนไม่ควรที่จะคิดหนีข้าไป ชิงสุ่ยถูกจมูกเขาในขณะกำลังคิดเกี่ยวกับการกอดรัดฟัดเหวี่ยงทั้ง 2 สาวทุกคืนทำให้หัวใจของเขาเดือดพล่าน



ชิงอี้ ยืนอยู่ข้างๆเธอสับสนกับการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันในการแสดงออกของ ชิงสุ่ย ในขณะที่เธอรู้สึกว่าเธอต้องการปลุกลูกชายของเธอให้ตื่นจากฝัน



จบตอน 59***

Ancient Strengthening Technique: Chapter 0058


Ancient Strengthening Technique: Chapter 0058





Ancient Strengthening Technique: Chapter 0058

ความลับของ ซือตู หลวน

ฝากกด like ติดตามเพจด้วยนะครับ https://www.facebook.com/Dogdatachill




*****************



*****************

Ancient Strengthening Technique  0058 ความลับของ ซือตู หลวน



“ชิงสุ่ย รูปแบบดาบที่เจ้าใช้จัดการ สือตู ปู้ฝานกับพักพวก คือ เทคนิค พื้นฐานแห่งดาบ <Basic Sword Techniques> ใช่หรือไม่”


ชิงอี้ เต็มไปด้วยความสุขและประหลาดใจขณะที่สอบถาม หลังจากทุกอย่างผ่านไป ชิงอี้ คุ้นเคยกับกลุ่มผู้เยาว์ที่ได้พ่ายแพ้ให้กับ ชิงสุ่ย และรู้ถึงระดับความแข็งแกร่งของพวกเขา ช่วยไม่ได้ที่เธอจะรู้สึกภูมิใจ เป็นช่วงเวลาที่มารดา ภาคภูมิใจในความ รุ่งโรจน์ ของลูกๆ อย่างแท้จริง นี่เป็นเรื่องที่น่าประทับใจที่สุดในชีวิตของเธอ


“ถูกต้อง ท่านไม่จะควรดูถูกมัน เทคนิคพื้นฐานแห่งดาบ มีบางอย่างซ่อนอยู่ในรากฐาน มันจะทำให้ท่านเข้าใจในเรื่องของดาบอย่างลึกซึ้ง” ชิงสุ่ย ตอบอย่างจริงจัง


“ชิงสุ่ย เจ้าทำได้ยังไง? ในบรรดาพวกนั้นมี สือจงเหยา ซึ่งข้าเองก็รู้จักเป็นการส่วนตัว ความแข็งแกร่งของเขาแทบจะดูถูกไม่ได้เลย” ลุง 3 ขมวดคิ้วขณะถาม


“อันที่จริง มันก็ไม่ใช่ความลับอะไร พวกท่านรู้จักรูปแบบต่างๆที่ระบุใน เทคนิค พื้นฐานแห่งดาบ ใช่มั้ย ทุกรูปแบบจะเป็นการ ทะลวง และ รวดเร็ว ข้าฝึกแบบนั้นมาหลายร้อยล้านครั้งจนได้ตรัสรู้บางอย่างเกี่ยวกับ “สัจธรรม” ของดาบข้าเชื่อว่าถ้าคนอื่นๆได้รับการฝึกแบบเดียวกับข้า ก็สามารถเข้าใจเกี่ยวกับ “สัจธรรม” นี้เช่นเดียวกัน” ชิงสุ่ย รู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ มันไม่ใช่ว่าจะมีคนจำนวนมากที่สามารถจะขยายเวลาได้เหมือนเขา


ทุกคนรู้สึกทึ่งกับสิ่งที่ ชิงสุ่ย กล่าวไว้ ต้องใช้เวลาถึง 10 ปีในการขัดเกลาทักษะดาบของเขานี่คือสิ่งที่ทุกคนรู้ อย่างไรก็ตาม เทคนิคดาบที่เรียบง่ายอาจมีพลังอันน่าสะพรึงกลัวที่ซ่อนอยู่ภายในถ้าพวกเขาได้รับการฝึกฝนอย่างหนัก ต้องแลกด้วยอะไร ต้องมีอำนาจจิตเท่าไหร่ที่ผู้ใช้ดาบต้องการ สายตาของทุกคนมองไปยัง ชิงสุ่ย ด้วยความเคารพและยกย่อง


รอยยิ้มที่เปล่งประกายผุดขึ้นมาบนใบหน้า ชิงอี้ ขณะที่เธอขยี้ผมของ ชิงสุ่ย และมีอารมณ์ที่ซับซ้อนเกิดขึ้นในใจ เธอรู้สึกว่า ชิวสุ่ย กำลังเติบโตขึ้นอย่างลึกลับ ความประหลาดใจที่ ชิงสุ่ย มอบให้เธอนั้นเกินความคาดหมายทั้งหมดของเธอ ช่วยไม่ได้ที่เธอจะรู้สึกประทับใจกับชายชราโบราณผู้สอน ชิงสุ่ย


----------------------


ห้องพักหรูหราแห่งหนึ่งในเมืองร้อยไมล์


ชายที่แข็งแกร่งแต่งตัวหรูหรากำลังเอนกายอยู่บนเตียงที่แสนสบาย ขณะที่ข้างๆเขามีหญิงสาวสวมผ้าเช็ดตัวกำลังนวดให้กับชายหนุ่ม


ผู้หญิงคนนี้มีผมสีดำยาวและมีผิวสีขาวนวลเอวของเธองดงามและมีเสน่ห์ หูของเธอมีขนาดเล็กและโค้งเล็กน้อยทำให้มีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น


เมื่อเวลาผ่านไปได้ยินกรีดร้องดังขึ้น ผ่านไปไม่นานก็เหลือเพียงความเงียบเท่านั้น ชายคนนั้นยิ้มอย่างเยือกเย็นขณะที่เขาขยับตัวและออกจากห้อง <น่าจะโดนฆ่า ไม่ได้โดนเอา>


ชายคนนั้นเดินตามทางเดินด้านนอกห้องขณะที่เขาเดินลงบันได นี่เป็นลานหรูหราที่เป็นอิสระ เจ้าของดูเหมือนจะต้องเสียค่าใช้จ่ายมากในการออกแบบ พรมแดงถูกวางไว้ทุกที่จากทางเดินไปยังห้องโถงใหญ่ และดูเหมือนจะเหมาะสำหรับจะเป็นที่อาศัยของภรรยาลับ


ขณะที่ชายคนนั้นเข้าไปในห้องโถงใหญ่ เขาได้เผยภาพลักษณ์ที่เต็มไปด้วยความงดงามและหล่อเหลา เพื่อแสดงความมั่นใจสูงสุด แต่ในใจกลับเจ็บปวดและทุกทน ชายทุกคนในห้องโถงใหญ่ลุกขึ้นยืนและทักทายเขาขณะที่เดินผ่านหน้าชายคนนั้น


"พี่ชาย หลวน ยังคงเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่พวกเรา" ชายหนุ่มที่ดูผอมและอ่อนแอเริ่มพูดขณะที่เขายกนิ้วให้กับชายชื่อ หลวน


ชายที่ชื่อ หลวน เป็นคนที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มอันแจ่มใส รอยยิ้มนี้เป็นสิ่งที่ผู้ชายทุกคนเข้าใจ


ชายที่ชื่อ หลวน นี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก ซือตู หลวน จากตระกูล ซือตู ที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่คนรุ่นใหม่ เขาดูเหมือนจะสบายใจในขณะที่กำลังขำขันและหัวเราะกับวงดนตรีของเขา แต่หัวใจของเขากลับมืดมัวเมื่อได้ยินคำชมเชย


“พี่ชาย หลวน ก่อนหน้านี้เด็กหนุ่มจากหมู่บ้านชิง ได้ท้าทาย น้องชายของท่าน และ สือชงเหยา ความแข็งแกร่งของเขาเทียบได้กับเสือดำและหมีป่ารวมกันเลยทีเดียว


“ดิง ฉิน น้องชายเจ้า ดิง เค่อ อยู่ในเหล่าคนที่พ่ายแพ้หรือไม่” ซือตู หลวน นั่งลงและที่เหลือก็นั่งตาม จากนั้นหญิงก็มาเสริฟชาอย่ารวดเร็ว


ถ้วยชาทำจากทรายม่วง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมั่งคั่งของตระกูล ซือตู คนกลุ่มที่รวมตัวกันเหล่านี้เป็นลูกหลานคนร่ำรวยหรือลูกศิษย์จากตระกูลใหญ่ อาหารที่เขาทานทุกมื้อนั้นล้วนแต่ราคาแพงและอร่อย


“ฮะๆ” ดิง ฉิน หัวเราะอย่างอายๆ


“ดิง ฉิน ข้ารู้จักเจ้าดี อย่าบอกนะว่าเจ้าต้องการให้ ดิง หลาง ประสบความสำเร็จในตระกูล ดิง และขึ้นเป็นหัวหน้าตระกูล แล้วเจ้าที่เป็นบุตรคนโตล่ะ เจ้ายังคงสามารถสร้างเรื่องให้ ดิง หลาง เสียชื่อเสียงและบังคับให้เขาออกจากตระกูล ดิง ได้” แม้ว่า ดิง ฉิน จะมองดูตรงไปตรงมาก็ตาม แต่ ซือตู หลวน รู้ดีว่าที่ซ่อนอยู่ภายใต้ความโง่ นั้นเป็นคนไร้ความปรานีและเลือดเย็น


“ยังไม่ถึงเวลา รอซักเดี๋ยว เมื่อเวลานั้นมาถึงคงต้องรบกวนพี่ชายแล้ว” ดิง ฉิน หัวเราะ



นับตั้งแต่ ซือตู หลวน ได้รับบาดเจ็บส่วนล่างของร่างกายในระหว่างการบ่มเพราะพลังของเขา เขาพยายามหาวิธีรักษาและแสวงหาหมอมานับไม่ถ้วน แต่ก็ไม่มีประโยชน์ ความหวังของเขาถูกฉีกเป็นชิ้นๆ ไม่ว่าผู้หญิงที่มีสเน่ห์ขนาดไหนก็ไม่ทำให้เขาดีขึ้น ภายใต้ความโกรธเขาฆ่าหมอทั้งหมดที่รู้ความลับทิ้ง เหลือแค่ตัวเองเท่านั้นที่รู้ความลับนี้

หลังจากนั้น เขาใช้ความพยายามทั้งหมดเจาะจงไปที่การบ่มเพาะ แต่แฟนเก่าของเขารู้เรื่องนี้ ดังนั้นเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกเหนือจากการใช้วิธีลวงเพื่อล่อลวงเธอ โดยขู่ว่าจะฆ่าครอบครัวของเธอทั้งหมด ไม่มีทางเลือก แฟนเก่าของเขาต้องทำตามเท่านั้น ไม่งั้นทุกคนจะตายหมด


“ดิง หลาง รู้เรื่องนี้หรือไม่” ซือตู หลวน ถามขณะหันไปมอง ดิงฉิน


“เขารู้ แต่เขาไม่ได้สนใจ เขาจะไปสนใจเรื่องของคนอื่นได้อย่างไร” ดิง ฉิน พูดด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อน


“หืม เพื่อนคนนี้เคยข้ามหัวข้าไปในอนาคตเมื่อเขาตาย ข้าเกรงว่าเขาจะไม่รู้ว่าสิ่งอะไรที่ฆ่าเขา” ซือตู หลวน อุทานออกมา


“นอกจากนั้นคนอื่นๆยังข้ามหัวพวกเราไป ดิง หลาง นั้นเป็นตัวแทนของเหล่ารุ่นเยาว์ในเมืองร้อยไมล์ เราไม่ควรทำอะไรในตอนนี้รอดูว่าเขาจะทนความอับอายได้นานแค่ไหน”


คนเหล่านี้ทุกคนเป็นสมาชิกตระกูลที่มั่งคั่งในเมืองร้อยไมล์ ดิง ฉิน มาจากตระกูลดิง แรงจูงใจของเขาที่ตีสนิทกับ ซือตู หลวน เพียงเพี่อให้ ซือตู หลวน ช่วยเขากำจัด ดิง หลาง


------------------------


ชิงสุ่ย ซึ่งอยู่ในร้านขายสมุนไพรกำลังยุ่งอยู่กับกิจการของตนเอง เขาไม่ได้กังวลเกี่ยวกับกลุ่มที่เขาได้เอาชนะไปเลยแม้แต่น้อย ตราบใดที่พวกนั้นไม่มาสร้างปัญหาให้กับเขา เขาก็จะไม่ทำอะไร แต่ถ้าพวกเขาต้องการที่จะยุ่ง เขาก็จะไม่ใจดีเพราะเขานั้นไม่ใช่พระเยซู


ในช่วงเวลากลางคืน ชิงสุ่ย เข้าไปในดินแดน หยกม่วงอัมตะ เขาคิดถึงสมบัติ 2 ชิ้นที่เขาได้ซื้อมาเข้าต้องการที่จะศึกษามันก่อนจะดึงกิ่งไม้สีดำออกมาเพื่อศึกษา แม้จะสังเกตุเกือบครึ่งวัน เขาก็ไม่สามารถบอกได้ว่ามันคืออะไร ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจปลูกมันข้างๆ ต้นเสริมพลัง ก่อนจะเทน้ำจากบ่อน้ำคริสตัลลงไป


สำหรับ เหล็กแห่งแก่นแท้ เขาวางบนดินที่เปียกน้ำใกล้ๆบ่อน้ำคริสตัล ในขณะที่เขานั่งลงเตรียมตัวบ่มเพาะพลัง นอกจากความขยันหมั่นเพียรที่อดทนฟันฝ่าจากความล้มเหลวใครการโคจรลมปราณให้ผ่านรอบที่ 49 ชิงสุ่ย ใช้เวลาหลังจากโคจรปราณล้มเหลวฝึกฝน หมัดอสูรสันโดด อย่างต่อเนื่อง และฝึกฝนวิชาดาบจาก เทคนิคดาบพื้นฐาน


ชิงสุ่ย หวังว่า เขาจะสามารถก้าวเข้าสู้ ระดับ สวรรค์ขั้น 4 ของเทคนิคเสริมสร้างความแข็งแกร่งโบราณ



จบตอน 58*****

Ancient Strengthening Technique: Chapter 0057

Ancient Strengthening Technique: Chapter 0057





Ancient Strengthening Technique: Chapter 0057

ทักษะการจีบสาวของ ชิงสุ่ย

ฝากกด like ติดตามเพจด้วยนะครับ https://www.facebook.com/Dogdatachill




*****************



*****************

Ancient Strengthening Technique  0057 ทักษะการจีบสาวของ ชิงสุ่ย



ชิงสุ่ย สนุกสนานมากในขณะนี้เขามีชีวิตชีวาและหน้าด้านมากขึ้น ถ้าอยู่ภายใต้สถานการณ์ปกติเขาจะไม่กล้าพูดคำดังกล่าว


เมื่อได้ยินการพูดคุยที่ธรรมดาของ ชิงสุ่ย สือชิงจวง รู้สึกผิดปกติมาก เธอเป็นคนสุดท้องในหมู่ครอบครัวของเธอและเป็นเด็กผู้หญิงคนเดียว เธอเป็นไข่มุกของตระกูล สือ และได้รับความรักและความเสน่หาตั้งแต่เด็กจนถึงขณะนี้


เพราะธรรมชาติที่เย็นชาและห่างเหินของเธอในขณะที่ เด็ก ๆ รอบ ๆ ตัวเธอไม่เคยเรียกเธอว่าพี่สาวของมาก่อน นี่เป็นครั้งแรกที่เธอถูกเรียกว่าพี่สาวแม้ว่าจะเป็นเด็กผู้ชายที่อายุน้อยกว่าเธอ แต่ผู้ชายคนนั้นก็อาจจะถือว่าเป็นผู้ใหญ่แล้ว! ความรู้สึกดังกล่าวเป็นความรู้สึกแปลกใหม่สำหรับเธอจริงๆ


“จะดีกว่าหากเจ้าหยุดพูด ข้าอาจจะแก้แค้นในสิ่งที่เจ้าทำกับพี่สองของข้าก็ได้” สือชิงจวง เริ่มขุ่นเคืองเล็กน้อยเห็นได้ชัดว่าผู้ชายคนนี้ใช้ประโยชน์จากวาจาของเธอ แต่แทนที่เธอจะโกรธเธอกลับรู้สึกอยากหัวเราะ นี่เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับเธอมาก่อน


รอยยิ้มที่เกิดจากความลำบากใจของ สือชิงจวง ทำให้ ชิงสุ่ย รู้สึกราวกับโดนกระแสไฟฟ้าดูด และจะเก็บความรู้สึกนี้ไว้ในความทรงจำ ด้วยความเงียบเขายังคงหลบซ่อนการชำเลืองมองไปที่ สือชิงจวง ความงามที่เย็นชาของเธอเป็นเอกลักษณ์และน่าสนใจอย่างมาก ชิงสุ่ย ไม่แน่ใจว่าจะเป็นความเหินห่างที่เป็นธรรมชาติของเธอ ทำให้ สือชิงจวง นั้นดูน่าสนใจเพราะทุกคนต้องการสิ่งที่พวกเขาไม่สามารถหาได้


“แม้ว่าความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเจ้าจะเพียงพอที่จะเอาชนะกลุ่มต้นแบบของผู้เยาว์เหล่านั้นได้ก่อนหน้านี้ แต่เจ้าต้องระวังการตอบโต้ในอนาคต สมาชิกของชนเผ่าที่ยิ่งใหญ่ที่ไม่ได้เป็นหัวกระทิของการบ่มเพาะเอาชนะประชาชน เมืองร้อยไมล์ ในขณะเดียวกันมันเทียบเท่ากับการทำลาย "ใบหน้า" และความภาคภูมิใจพวกเขา ข้ากล้าบอกเลยว่าจะมีผู้ท้าทายหลายคนเข้ามาก่อปัญหาให้กับเจ้าเพื่อจะกู้ "หน้า" กลับมาอีกครั้ง”


หลังจากครุ่นคิด ชิงสุ่ย ก็ได้แต่ยอมรับว่านี่เป็นปัญหาอย่างแน่นอน ถ้าในอนาคตมีคนต้องการมาท้าทายอย่างต้องเนื่องแล้วเขาจะมีเวลาทำอย่างอื่นหรืออย่างไร แม้ว่าก่อนหน้านี้เรื่องที่เกิดขึ้น ชิงสุ่ย จะไม่ได้คิดมาก แต่ว่าจริงๆแล้วเรื่องนี้จะไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยเลย


“พี่สาว ท่านรู้ไหมท่ามกลางชนเผ่าที่ยิ่งใหญ่รุ่นเยาว์ของเมืองร้อยไมล์มีการบ่มเพาะระดับใด” ชิงสุ่ย รู้ว่าอีกฝ่ายต้องการกู้ “หน้า” พวกเขาต้องส่งผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่รุ่นเยาว์เพื่อมาท้าทายเขาซ่ำๆแน่ ถ้าเขารู้ความแข็งแกร่งของฝ่ายตรงข้ามเมื่อต้องเผชิญหน้ากับพวกเขา อย่างน้อยเขาก็สามารถเตรียมตัวได้


“เจ้าช่างมองโลกในแง่ดีเจ้าพูดเหมือนกันว่าเจ้ามั่นใจเอามากๆ ยังไงก็ตามข้าต้องขอบอกไว้ก่อนเลยว่าความแข็งแกร่งของเจ้าเกินความความคาดหมาย ดูแล้วเจ้าอายุยังน้อยข้าสงสัยว่าเจ้าฝึกแบบไหนกันถึงได้รับความแข็งแกร่งระดับนี้ สำหรับคำถามนั้นฝ่ายตรงข้ามที่เจ้าต้องระวังคือ ซือตู หลวน จากตระกูลซือตู และ ดิง หลาง จากตระกูล ดิง พวกเขาทั้ง 2 อยู่ในหมู่คนรุ่นที่ 3 และพวกเขามีอายุประมาณ 30 ปีและทั้งสองคนอยู่ในระดับ 2 และ 3 ของ บัญชาสวรรค์” สือชิงจวง ตอบด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วง


สือชิงจวง รู้สึกว่าจำนวนวครั้งที่เธอหัวเราะในวันนี้มากว่าในครั้งที่ผ่านมาในรอบ 1 ปีเธอไม่สามารถซ่อนความรู้สึกกับคนที่อยู่ตรงหน้าเธอได้แม้เขาจะเป็นเพียงเด็กผู้ชาย



หลังจากได้รับข้อมูลจาก สือชิงจวง เขาก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก ต้องขอบคุณพระเจ้าที่การบ่นเพาะพลังที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดารุ่น 3 ยังอยู่ในการคาดการณ์ของเขา อัจฉริยะรุ่น 2 ชิงเหอ ของตระกูลชิงก็มีระดับเดียวกับในช่วงยุค 30 ปีที่แล้วเช่นกัน ไม่รู้ว่าทำไม ชิงสุ่ย รู้สึกว่าตอนนี้เขามีความสามารถที่จะปะทะกับฝ่ายตรงข้ามที่มีระดับพลัง 2-3 บัญชาสวรรค์ได้

“ขอบคุณสำหรับข้อมูลของเจ้า เจ้ารู้ไหมว่าเจ้าควรยิ้มให้มากในอนาคต เจ้าเป็นเหมือนดอกกุหลาบที่ดูสดใสเมื่อเวลาเจ้ายิ้ม ไม่มีการพูดเกินจริงเมื่อข้าจะบอกว่าความงามของเจ้านั้นสามารถทำให้กษัตริย์สูญเสียอาณาจักรของเขาเพื่อเจ้าได้เลย” ชิงสุ่ย พูดหยอกล้อ ใบหน้าของ สือชิงจวง เป็นสีแดงและดูสดใสขึ้น


“เจ้าเด็กน้อย เจ้าต้องแพ้แน่” หลังจากที่เธอพูด สือชิงจวง ยื่นกำปั้นของเธอเคาะเบาๆที่ไหล่ของ ชิงสุ่ย ขณะที่เธอโกรธกึ่งเขินอาย นี่เป็นครั้งแรกที่เธอแสดงท่าทางเหมือนเด็กผู้หญิง


ในขณะที่กำลังมีความสุข สือชิงจวง ทำให้เขาล้มลง โดยไม่รู้สึกเจ็บใดๆ ทั้งหมดที่เขาคิดได้คือ สือชิงจวง นั้นเขินอายและรอยยิ้มของเธอดูสดใส และทั้งหมดได้ฝังลงในจิตใจเขาเสียแล้ว มีผู้หญิงสองประเภทที่อาจทำให้ผู้ชายมีความสุข ประเภทแรกคือผู้หญิงที่มีความสวยงามที่เหลือเฟืออันน่าเหลือเชื่อที่สามารถโค่นล้มอาณาจักรได้ ประเภทที่สองคือผู้หญิงน่ารัก ความสวยที่มาจากความน่ารัก เห็นได้ว่า สือชิงจวง คือประเภทแรก ถ้าเธอทำตัวดีขึ้นนิดหน่อยคงไม่สงสัยเลยว่าจะทำให้ผู้ชายทั้งโลกเป็นบ้า


“ถึงอย่างนั้น ข้าก็โตแล้วไม่ใช่เด็กเพราะงั้นเจ้าต้องปฏิบัติกับข้าให้เหมือนเป็นผู้ใหญ่สิ” ความหนักแน่นที่ออกมาจากสายตาขณะที่เขาพูดกับ สือชิงจวง


มนุษย์ทุกคนในชีวิตของเขาอาจจะต้อง เกี้ยวพา ก่อนที่จะมี xxx กับอีกฝ่าย ประเด็นหลักก็คือจะต้องรู้ว่าเมื่อไหร่ควรที่จะหยุด ถ้าทำมันเกินไปผู้หญิงอาจจะรู้สึกไม่ดีแล้วถูกผลักดันออกไป [มันจะโยงมาเรื่อง s*x ทำไมว่ะงงชิบ]


“เอาล่ะข้าต้อไปแล้ว ดูแลตัวเองด้วยผู้ใหญ่ตัวน้อย” เสียงหัวเราะดังออกมาขณะที่ สือชิงจวง กำลังจากไป เสียงหัวเราะดังกล่าวคล้ายคลึงกับเสน่ห์ของปีศาจซึ่งหมุนเวียนอยู่รอบ ๆ สมองตลอดเวลาไม่สามารถกระจายไปได้


“สวยมาก ในอนาคตเจ้าต้องเป็นของข้า” ชิงสุ่ย ได้แต่เพียงคิด เขาไม่เคยต้องการอะไรมากนักมาก่อน ดังนั้นนี่คือสิ่งที่คนเรียกว่า "ความอยากได้" และ "ความต้องการ"


ความอยากได้และความต้องการมีหลายประเภท ได้แก่ ความร่ำรวย อำนาจ ผู้หญิง พวกเขาใช้มันเป็นแรงกระตุ้น แต่ถ้าคนหนึ่งถูกความปรารถนาควบคุมความพวกเขาก็จะมีจุดจบด้วยความน่าสมเพช


“ถ้าเจ้าว่าง เจ้าสามารถมาเยื่ยมข้าที่ร้านขายสมุนไพรตระกูลชิงได้ทุกเมื่อ ข้าจะทำให้เจ้ามีความสุขแน่นอน” ชิงสุ่ย ตะโกนตามหลัง สือชิงจวง แม้ในช่วงเวลาสั้น ๆ ที่เขาใช้เวลาอยู่กับเธอ เขาไม่เคยรู้สึกมีความสุขแบบนี้มากนักในชีวิตของเขา และไม่มีใครบอกได้ว่าเมื่อไหร่ที่พวกเขาจะมาพบกันอีกครั้ง ดังนั้น ชิงสุ่ย ไม่เต็มใจที่จะปล่อยให้ สือชิงจวง จากไปเช่นนี้


บางที สือชิงจวง อาจจะได้ยิงเสียงจากหัวใจ ชิงสุ่ย เธอพยักหน้าให้อย่าไม่คาดคิดก่อนที่จะจากไป  มุมมองด้านหลังที่สวยงามของเธออาจเทียบได้กับผีเสื้อที่กระพือปีกท่ามกลางดอกไม้


ลำดับต่อไปของเขา ชิงสุ่ย ติดสินใจกลับไปที่ร้านขายสมุนไพรตระกูลชิง โดยไม่รู้เลยว่าเวลานี้มันเที่ยงแล้ว ขณะที่เดินกลับไปที่ร้านเขาประหลาดใจที่พบว่า ชิงอี้ ลุงและป้าของเขา ชิงซาน และ ชิงสือ ทุกคนมองมาด้วยสายตาแปลกๆ


“ชิงสุ่ย รูปแบบดาบที่เจ้าใช้จัดการ สือตู ปู้ฝานกับพักพวก คือ เทคนิค พื้นฐานแห่งดาบ <Basic Sword Techniques> ใช่หรือไม่”



จบตอน 57 *******

Ancient Strengthening Technique: Chapter 0056

Ancient Strengthening Technique: Chapter 0056




Ancient Strengthening Technique: Chapter 0056

เจอกับ สือชิงจวง อีกครั้ง

ฝากกด like ติดตามเพจด้วยนะครับ https://www.facebook.com/Dogdatachill




*****************



*****************

Ancient Strengthening Technique  0056 เจอกับ สือชิงจวง อีกครั้ง


*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-

จาก ชิงชิ เปลี่ยนเป็น ชิงสือ นะครับ เพื่อนที่มาเมืองร้อยไมล์ด้วยกันน่ะ
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-


มองไปยัง ซือตูปู้ฝาน ชิงสุ่ย โบกมือเล็กน้อยปัดฝุ่นที่กระจายอยู่รอบๆ บนพื้นมีร่างที่ไร้สติของเหล่าสหาย ซือตูปู้ฝาน


ความขมขื่นบังเกิดในหัวใจของ ซือตูปู้ฝาน กลุ่มเพื่อนๆโดยเฉพาะ สือจงเหยา จากตระกูล สือ ที่เป็นถึง ระดับ 5 ปราบฟ้า ยังพ่ายแพ้อย่างย่อยยับ


คิดย้อนไปเมื่อเขาแพ้ ชิงสุ่ย ที่หมู่บ้านตระกูลชิง หลังจากที่เขากลับมาเมืองร้อยไมล์ สือจงเหยา เป็นคนที่ตำหนิเขามากที่สุด และเป็นคนเรียกเขาว่าหัวหมูและตั้งชื่อที่น่ารักเกียจให้อีกสารพัด ทำให้ชื่อเสียงในเมืองร้อยไมล์ของเขาป่นปี้มากขึ้น และตอนนี้ เจ้าคนบ้านนอก เอาชนะ สือจงเหยา ได้ ไม่ใช่ว่ามันน่าอับอายมากกว่ามากกว่าที่เขาเป็นอยู่หรอกหรือ


นี่เป็นธรรมชาติของมนุษย์ เมื่อมีเพียงคนเดียวที่พ่ายแพ้ย่อยทำให้รู้สึกว่าเขานั้นไร้ประโยชน์ อย่าไรก็ตามท่ามกลางกลุ่มคนที่มีระดับการบ่มเพาะมากกว่ากลับพ่ายแพ้เขานั้นก็ไม่มีความอับอาสยอีกต่อไป มันเป็นความจริงที่ว่าคนที่อยู่ตรงหน้านั้นเขานั้นแข็งแกร่งมาก


ในขณะที่เกิดความวุ่นวายหลายอย่างขึ้นบนถนน ด้วยความที่ไม่อยากเป็นจุดสนใจมากเหมือนผู้คนที่กำลังเที่ยวชมสัตว์ที่ถูกขังในสวนสัตว์ ชิงสุ่ย จึงชี้ทางให้ ชิงสือ กับ ชิงชาน เพื่อเตรียมที่จะออกจากพื้นที่ อย่างไรก็ตามในขณะที่เขาหันหัวกลับในใจเขาก็เกิดความมึนงง เขากำลังอาการประสาทหลอนรึป่าว ใบหน้าที่เย็นชาของคนที่เขาเคยฝันถึงได้อยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้


สือชิงจวง!!!


สือชิงจวง เธอสวมกระโปรงสีแดงสดใจแววตาเต็มไปด้วยความสับสน เธอยืนอยู่ที่นั่นโดยไม่พูดอะไรซักคำและจ้องมาทางเขาอย่างเงียบๆ


ต้อนนี้ ชิงสุ่ย รู้สึกว่าหัวใจของเขาเต้นเร็วขึ้น คนที่เขาโหยหามาตลอดยืนจ้องหน้าเขาอยู่ในขณะนี้ แม้ว่าจะมีประสบการณ์สองชีวิตแต่เขาก็ยังคงบริสุทธิ์และยังไม่เคยมีประสบการ XXX กับเพศตรงข้าม แม้ว่าจะได้อ่านหนังสือเกี่ยวกับทฤษฎีการออกเดทมาจำนวนมากแต่มันจะเอามาเปรียบกับประสบการณ์จริงได้อย่างไร เขากัดริมผีปากบอกตัวเองว่าไม่ต้องกังวลขณะทักทาย สือชิงจวง


“ง...........ไง เป็นไงบ้าง จำข้าได้มั้ย ข้าคือคนที่เคยขี่ม้า เอ็มเบอไลอ้อน ในวันที่เจ้าไปเยี่ยมเยียมหมู่บ้าน ตระกูลชิง ไง” ชิงสุ่ย เกาหัวเล็กน้อยขณะฝืนยิ้มเพื่อปดปิดช่วงเวลาที่น่าอึดอันใจที่เขาได้พูดติดอ่าง



ใบหน้าของ สือชิงจวง ให้ความรู้สึกหนาวเย็นเล็กน้อยในขณะที่ริมฝีปากสีแดงเซ็กซี่ของเธอค่อยขยับลงไปเป็นรอยยิ้มที่บางเบา อ่า รอยยิ้มนั้นมันช่างคล้ายกับความสดใสของดวงอาทิตย์ที่ช่วงฤดูหนาวที่หนาวเย็นและลมแห่งความสุขที่พัดผ่านมาระหว่างความร้อนที่แผดเผาในฤดูร้อน ชิงสุ่ย พบว่าเขาลืมคำพูดที่เขากำลังเตรียมที่จะพูดในขณะที่เขาสูญเสียความเป็นตัวเองไปกับรอยยิ้มของเธอ

“ตามมา” เสียงที่เยือกเย็นและน่ารักของ สือชิงจวง ลอยขึ้นก่อนที่เธอจะหันและออกไป


ความรู้สึกซับซ้อนผสมกับความขมขื่นและหดหู่เกิดขึ้นในหัวใจของ ซือตูปู้ฝาน สือชิงจวง เป็นผู้หญิงที่ได้หมั้นไว้กับเขามาตั้งแต่กำเนิดและเธอไม่เคยแม้แต่ที่จะมองเขาเลยซักนิด


ชิงสุ่ย กระตือรือล้น ยิ้มกว้างบนใบหน้าของเขา  เขาโบกมือลา ชิงชิ และ ชิงชาน รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาเป็นสิ่งที่ผู้ชายทุกคนรู้เกี่ยวกับมัน เป็นรอยยิ้มที่เกิดจากหญิงสาว หลังจากทั้งคู่เดินจากไป ชิงสุ่ย ก็ไล่ตามเงาของ สือชิงจวง อย่างรวดเร็ว


หลังจากที่ ชิงสุ่ย ได้ยินคำพูด สือชิงจวง มันทำให้เขาสนใจ แม้ว่าเขาจะไม่ชอบผู้หญิงขี้เก๊กและหยิ่ง แต่กับเขา นี่คือบุคลิกของ สือชิงจวง นอกจากนี้เธอยังไม่ได้เหลือบมองที่คู่หมั้นของเธอเลย แต่กับคุยกับเขาแทน เขาเชียร์ตัวเองอย่างเงียบๆ “ฮ่าๆ ดูเหมือนช้าจะได้รับความนิยมโดยแท้ “ โดยไม่ต้องพูดถึงปัจจุบัน สือชิงจวง เป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดที่เคยพบมา


เบื้องหลังเขา ซือตูปู้ฝาน กัดฟันด้วยความหงุดหงิดเนื่องจากรูปลักษณ์ที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง ทิ้งไว้ด้านหลังของ สือชิงจวง และ ชิงสุ่ย เขาขบฟันขณะสาบานว่า “ ไอ่พวกสำส่อน วันหนึ่งข้าจะลูบไล้เธอต่อหน้าต่อตาเจ้า”


ขณะที่พวกเขาเดินไปด้วยกันไม่ว่าจะเป็นเรื่องบังเอิญหรือการกระทำที่วางแผนล่วงหน้าไหล่ของ ชิงสุ่ย ก็ถูกับ สือชิงจวง อย่างต่อเนื่อง


สือชิงจวง ยักคิ้วเล็กน้อยขณะที่เธอจ้องมองไม่ที่ ชิงสุ่ย ที่อยู่ข้างเธอ เธอประหลาดใจที่เธอค้นพบว่าเพื่อนตัวน้อยของเธอมีรูปลักษณ์ที่ปราณีตและมีใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสง่างามและมีความเป็นชายเล็กน้อย ดวงตามีความชัดเจน นี่เป็นผู้ชายที่รู้ว่าอนาคตเขาต้องการอะไร โดยไม่ได้ตั้งใจเธอไม่สามารถช่วยเปรียบเทียบกับคนที่เคยได้รับการ "ขัดเกลา" ที่อยู่รอบๆตัวเธอ  ผู้ซึ่งปรากฏความอ่อนโยนและใจดี แต่ในความจริงคนเหล่านั้นได้ตรวจเธออย่างไม่หยุดหย่อนด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความต้องการทางเพศ ความแตกต่างระหว่างพวกเขาคล้ายกับสวรรค์และโลก


ดวงตาของเขามีเสน่ห์มาก เป็นเสน่ห์ที่ทำให้คนอื่นอยากจะจ้องมองไปที่เขา หว่างคิ้วของเขาเป็นเหมือนวิญญาณผู้กล้าที่สามารถทำให้ผู้หญิงต้องการเข้าหา นอกจากนี้รอยยิ้มยังเต็มไปด้วยความร่าเริง แต่ สือชิงจวง สามารถบอกได้ว่ามันคือการแกล้งทำ เธอมองเห็นบางอย่างที่ซ่อนอยู่รอยยิ้มของ ชิงสุ่ย มันเป็นร่องรอยของลักษณะที่คล้ายคลึงกับเธอคือความโดดเดี่ยวและความภาคภูมิใจ โดยรวมแล้ว สือชิงจวง สรุปได้ว่าเพื่อนตัวน้อยคนนี้ช่างดูดี


ทันใดนั้นตัวของ สือชิงจวง แข็งทื่อนี่เธอกำลังวิจารณ์รูปร่างของเด็กหนุ่มที่อายุน้อยกว่าเธองั้นเหรอ


“พี่สาว จวง จ้องมองข้าทำไมเหรอ” ชิงสุ่ย พูดแทรกอย่างฉับพลันและคำเรียกหาก็ค่อนข้างเหมาะสม เนื่องจาก สือชิงจวง มีอายุมากกว่าเขา 5 ปี


หลังจากที่ได้ยินคำที่ใช้เรียกเธอ สือชิงจวง แทบจะกระโดดด้วยความตื่นตกใจ แต่ก็ระงับมันอย่างรวดเร็ว มันดูค่อนข้างถูกต้องสำหรับ ชิงสุ่ย ในการเรียกเธอเช่นนี้


“เจ้าไม่ทราบหรือว่าได้สร้างปัญหาไว้มากมาย” สือชิงจวง กล่าวอย่างสงบ


“ปัญหา ? เธอหมายถึงอะไร ใช่ขยะนั่นมั้ย ” ชิงสุ่ยตอบด้วยรอยยิ้ม ชิงสุ่ย รู้สึกว่าคำถามก่อนหน้านี้โดย สือชิงจวง มันเป็นนัยๆว่าเธอมีความกังวนแทนเขาซึ่งทำให้เขาอุ่นใจเล็กน้อย


“ขยะ เจ้ารู้มั้ยขยะพวกนั้นเป็นใคร” ริมฝีปาก สือชิงจวง ขลิบเบาๆราวกำว่าเธอกำลังพยายามระงับเสียงหัวเราะเพราะ ชิงสุ่ย คิดว่ามันเป็นเรื่องตลก


ชิงสุ่ย ส่ายหน้าจ้องไปที่ สือชิงจวง รอคำตอบจากเธอ


“เจ้าควรรู้ว่า ซือตูปู้ฝาน มาจากตระกูลมหาอำนาจ ซือตู หนึ่งในขยะพวกนั้นมีพี่ชายคนที่ 2 ของข้าคือ สือจงเหยา นอกจากนี้ยังมีผู้เยาว์ตระกูล ดิง เจ้ารู้มั้ยตระกูล ดิง นั้นมีขนาดใหญ่กว่าตระกูล ซือตู จริงๆแล้วเจ้าเป็นคนแรกในเมืองร้อยไมล์ที่สร้างปัญหากับ3มหาอำนาจของที่นี่”


“แย่สุดๆ” ชิงสุ่ย คิด ไม่คาดว่าพี่ชายของ สือชิงจวง จะอยู่ท่ามกลางคนกลุ่มนั้น อย่างไรก็ตามแม้จะอธิบายทุกสิ่งทุกอย่าง สือชิงจวง ก็ไม่รู้สึกไม่ดีหรือตำหนิใดๆ ที่เขาเอาชนะพี่ชายของเธอ


“แม้ว่าเจ้าจะเอาชนะคนเหล่านี้ได้ แต่เจ้าควรรู้ไว้ด้วยความสามารถของพวกเขาไม่มีทางใดที่จะทำให้พวกเขาเป็นบุคคลสำคัญของตระกูลใหญ่” พี่ชายคนที่สองขอข้าก็เช่นเดียวกันภายใต้การดูแลจากครอบครัวข้าด้วยความช่วยเหลือจากยาจิตวิญญาณนับไม่ถ้วนทำให้เขาไปถึง ปราบฟ้า ระดับ 5 แต่แล้วยังไงล่ะ มันทำให้เขาขาดประสบการณ์การต่อสู้จริง แม้แต่ระดับ 1 ที่ได้ฝึกฝนวิชาต่อสู้ที่แท้จริงยังเอาชนะเขาอย่างง่ายดาย” สือชิงจวง อธิบาย เธอขมวดคิ้วเล็กน้อยราวกับว่าพยายามเตือน ชิงสุ่ย ว่ามีบางอย่างที่พูดไม่ได้


“ฮิฮิ หรือว่าเจ้าเป็นห่วงข้า” ชิงสุ่ย ยิ้มราวกับว่าเขาไม่กลุ้มใจอะไรเลย



จบตอน 56

Ancient Strengthening Technique: Chapter 0055

Ancient Strengthening Technique: Chapter 0055



Ancient Strengthening Technique: Chapter 0055

ยั่วยุ

ฝากกด like ติดตามเพจด้วยนะครับ https://www.facebook.com/Dogdatachill








*****************



*****************

Ancient Strengthening Technique  0055  ยั่วยุ



ซือตูปู้ฝาน เริ่มบ้าคลั่ง ชิงสุ่ยรู้ว่า ศักดิ์ศรีนั้นมีค่ามากกว่าชีวิต โดยเฉพาะกับ ซือตูปู้ฝาน ก็ดีมันไม่ใช่ปัญหาที่ชั้นจะราดน้ำมันลงในกองเพลิง


“ ท้าทายชั้น พวกแกไม่คู่ควร ถ้าทุกคนต้องการท้าทายชั้น แบบนั้นมันจะไม่ทำให้ชั้นเหนื่อยตายหรอกเหรอ “ ชิงสุ่ย ตอบไปอย่างเย็นชาโดยมีน้ำเสียงไม่พอใจ


ตั้งแต่แรกที่ได้พบผู้เยาว์เหล่านี้ ชิงสุ่ย ก็เกิดความไม่ประทับใจกับพวกเขา แม้ว่าระดับการบ่มเพาะของพวกเขาจะแข็งแกร่งเมื่อเฉลี่ยกับอายุ แต่ ชิงสุ่ย ก็รู้ดีว่าผลกระทบนี้ต้องเกิดจากยาเสริมพลังบางอย่าง สำหรับพวกที่อยู่ในระดับต่ำ ดินแดนบัญชาสวรรค์ ผลที่ได้คงมาจากยาจิตวิญญาณระดับสูงสุด เพราะยาถูกปรุงโดยนักปรุงยาระดับต่ำทำให้มันแทบจะไร้ผลกับผู้ที่มีความแข็งแกร่งระดับดินแดน บัญชาสวรรค์ หรือสูงกว่า


มองไปยังการใบหน้าของกลุ่มรุ่นเยาว์เศรษฐีอายุ 25-25 ปี แสดงไปถึงความหยิงและทะนงตัวอย่างเห็นได้ชัด พวกมันคิดว่าตัวเองมีอำนาจที่สุดในเมือง ร้อยไมล์แห่งนี้ ชิงสุ่ย รู้สึกเห็นใจกับความคิดของคนเหล่านี้


อย่างไงก็ตามตระกลูใหญ่ในเมืองร้อยไมล์ที่มีประวัติไม่กี่ร้อยปีคิดว่าลูกหลานของตระกูลเหล่านี้ควรได้รับการหนุนหลังจึงทำให้พวกมันมีความกล้าและภาคภูมิใจที่เป็นลูกของขุนนาง พวกนี้คงจะดูถูกพวกชั้นเป็นกบที่อาศัยใต้บ่อไม่มีแนวคิดเกี่ยวกับโลกภายนอก


“แกกกกกกกกกก  ” ซือตูปู้ฝาน ตะคอกด้วยคำพูด เขาไม่เคยเจอความอับอายขนาดนี้มาก่อนในชีวิต


“ หุบปาก คิดว่าชั้นกลัวแกรึไง ” คราวนี้ ซือตูปู้ฝาน ดึงดาบและชี้ไปทาง ชิงสุ่ย ขณะที่เขาท้าท้ายอีกครั้ง


ชิงสุ่ย ขมวดคิ้วตามกฎการต่อสู้ในโลกของเก้าอาณาจักรมีเพียงสองทางเลือกเมื่อมีคนชี้ดาบเพื่อท้าทาย ประการแรกคือยอมรับการต่อสู้ที่เดิมพันด้วยชีวิต ประการที่สองคือยอมจำนน!!!!!!!


ในตอนแรก ชิงสุ่ย ไม่ต้องการเปิดเผยความแข็งแกร่งของเขาเร็วเกินไปเมื่อมาถึงเมืองร้อยไมล์ แม้ว่าจริงๆแล้วเขามีความแข็งแกร่งมากกว่าคนรอบข้างในหมู่บ้านของเขา แต่เมื่อเทียบชนชั้นสูงทั้ง 4 แห่งเมืองร้อยไมล์แล้วยังห่างไกลมาก ความอ่อนแอของเขาไม่สามารถทำให้เขาเดินทางในเมืองโดยไม่มีใครขวาง แต่เขาก็ไม่ได้โง่ที่จะยอมให้คนดูถูก


ชิงสุ่ย ถอนหายใจ เขาอยู่ในสถานะการที่ยากลำบาก ถ้าเขายอมแพ้เขาก็ต้องสูญเสียเกียรติ ถ้าเขาชนะต้องเผชิญกับการท้าทายที่ไม่สิ้นสุด ถ้าเขาเอาชนะรุ่นเยาว์ทั้งหมดก็ไม่มีอะไรรับประกันว่าพวกตระกูลใหญ่ทั้งสี่จะไม่ไล่ล่าเขา มันเป็นทางเลือกที่ลำบาก



ยอมจำนนงั้นเหรอ ไม่มีทาง!! แม้ว่านักปราชญ์ที่แท้จริงจะไม่สนต่อคำยั่วยุ แล้วไงล่ะชั้นไม่ใช่นักปราชญ์ซักหน่อย

“เนื่องจากนายต้องการที่จะตาย ชั้นจะช่วยเอง ออกไปรอข้างนอกชั้นจะออกไปหลังจากซื้ออาวุธเสร็จ “ คิ้วของ ชิงสุ่ย เกิดรอยหยักเล็ก เขารู้ว่าท่าทางของรุ่นเยาว์พวกนี้เต็มไปด้วยความยะโส พวกเขาต้องการอยู่เหนือหัวคนอื่น


“เด็กนั่นดูมั่นใจมากๆ นายมั่นใจเหรอว่าจะจัดการเด็กนั่นได้” เด็กหนุ่มที่อยู่ข้างๆ ซือตูปูเฝาน พูดขึ้นขณะทั้งคู่เดินออกไปนอกร้านอาวุธ


“นายสงสัยชั้น วางใจได้ครั้งล่าสุยชั้นใช้มือเปล่า เพราะมันใช้ช่วงที่ชั้นประมาทโจมตีมา ครั้งนี้ชั้นจะทำให้มันรู้สึกถึงความแตกต่างระหว่างสวรรค์กับโลก ชั้นต้องการแสดงให้เห็นว่ามันเป็นแค่แมลงตัวเล็กๆ จะทำให้มันก้มหัวด้วยความอับอายและรู้ว่าเมืองร้อยไมล์ไม่ใช่สถานที่สำหรับมัน “ซือตูปู้ฝาน กัดพันพูดด้วยความเกลียดชัง


หลังจากให้ยินคำพูดนั้น ชิงสุ่ย ก็ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ ความเกลียดชังเหรอ ปล่อยให้ความเกลียดชังกัดกินมันไปสิความสามารถมันจะได้ลดลง โดยไม่ห่วงเรื่องเหล่านี้ ชิงสุ่ย เดินไปยังชั้นวางและเริ่มเลือกอาวุธ


เมื่อมองไปยังอาวุธที่ขายและตรวจสอบกระเป๋าเงินทำให้เขาถึงกับขากรรไกรค้าง “ ชิบหาย ดูเหมือนว่าชั้นจะซือได้แค่ ดาบธรรมดาๆทั่วไปเท่านั้น ลืมไปเลยว่าจำเป็นต้องซื้อดาบ “ ก่อนหน้านี้ ชิงสุ่ย ใช้ดาบเหล็ก สครายเรียส  [Scryrius Iron Sword] ในการฝึกวิชาดาบเขาใน ดินแดนหยกม่วงอัมตะ [Realm of the Violet Jade Immortal]


“เถ้าแก่ ช่วยขายดาบ ไม้เหล็ก [ironwood] นี้ให้ผมได้มั้ย “ มองไปยังดาบ ราคา 18 ซิลเวอร์ แม้มันจะดูดี แต่มันก็ดูเหมือนจะหนักกว่าที่คิดไว้ นอกจากนั้นขอบและปลายดายยังไม่คมเท่าที่ควร มันค่อนข้างหนาและทื่อเหมือนไม่ใช่อาวุธ มันเหมือนกับเครื่องประหรือของเล่นเด็กมากกว่า


“ราคานี้ไม่สามารถต่อได้ มันถูกทำขึ้นจากช่างตีเหล็กของเรา” เถ้าแก่วัยกลางคนกล่าวอย่างชัดเจน ไม่มีทางเลือกให้ ชิงสุ่ย เขายิ้มเล็กน้อยขณะซื้อมัน


เมื่อ ชิงสุ่ย เดินออกมาจากร้าน ศัตรูเขา ซือตูปูฝาน ก็รอต่อสู้อย่างใจจดใจจ่อ ดาบในมือของเขาสั่นจนไม่สามารถควบคุมได้


“แก ดี เยี่ยม เยี่ยมมาก....” หลังจากที่พูด ซือตูปู้ฝาน ดูโกรธมากจนถึงจุดเดือด คิดว่า ชิงสุ่ย ดูถูกเขามาก


ชิงสุ่ย ยักไหล่ไม่ใช่ว่าเขาไม่ต้องการซืออาวุธดีๆ แต่ด้วยจำนวนเงินที่เหลืออยู่ ไม่มีทางเลือกนอกจากสิ่งนี้ “ น่าเสียดาย ถ้าชั้นรู้ว่านายจะโกรธขนาดนี้ชั้นคงหยิบไม้แห้งมาท้าท้ายเจ้าน่าจะดีกว่า มันอาจทำให้นายโกรธจนเส้นเลือดแตกตายเลยก็ได้แบบนั้นมันจะช่วยชั้นประหยัดแรงได้เยอะ “


“ไอ่เด็กบ้านนอก แกต้องตาย”


แม้จะโดนดูถูก ชิงสุ่ย ก็ยังรู้สึกเฉยๆ เขาไม่อยากลดตัวลงไปอยู่ในระดับเดียวกับเจ้าพวกนั้น


ในสถานะการณ์แบบนี้ ซือตูปู้ฝาน ไม่ประมาทแม้แต่น้อย เขาค่อยๆดึงดาบสีฟ้าของเขาออกมา เวลานั้นเอง ตัวดาบส่องแสงสีฟ้าออกมาทำให้รู้สึกหนาวสั่นอุณหภูมิรอบๆลดลงอย่างรวดเร็ว


“ดาบเล่มนี้คือดาบน้ำแข็ง ชั้นจะใช้มันจัดการกับแก” หลังพูดจบ ซือตูกระโจนไปข้างหน้าด้วยความโกรธอย่างรวดเร็วดาบในมือเขาฟาดฟันเป็นแนวโค้งอย่างต่อเนื่อง เพื่อปิดเส้นทางการหลบหนีของ ชิงสุ่ย


“ก็ได้ ชั้นจะเล่นกับนายหน่อยแล้วกัน “ เทคนิค เล็นโด [ laido เทคนิคการใช้ดาบ] ที่ต้องเข้าใจจากบทสวดเพียง 3 คำ ได้รับการฝึกฝนมานับล้านๆครั้ง มันทำให้สภาวะบางอย่างของเขา เปลี่ยนไป เทคนิค เล็นโด ไม่มีอะไรพิเศษ มันดูเรียบง่ายธรรมดาเช่น รวดเร็ว เขาจะปลดกล่อยการโจมตีที่รวดเร็วที่สุดเร็วจนขอบเขตที่ตาไม่สามารถมองตามทัน


การจู่โจมด้วยดายของ ชิงสุ่ย ดูธรรมดาสามัญแต่เปล่งประกาย คนดูเกิดความตื่นตระหนกแม้กระทั่งตัวเขาเอง เพราะว่าการโจมตีด้วยดาบของ ซือตูปี้ฝาน นั้นไม่มีจิตสังหาร ชิงสุ่ยจึงไม่กังวล ก่อนการโจมตีจะมาถึงเขานั้น ชิงสุ่ย สามารถปลดปล่อยการโจมตีด้วยดาบได้เป็นร้อยครั้ง


“ เพี๊ยะ ” ดาบของ ชิงสุ่ยแทงเข้า มือขวาตรงข้อมือของ ซือตูปู้ฝาน ไม่เพียงความเร็วโจมจะเทียบเท่าสายฟ้า ทั้งยังมีความแม่นยำ  มันแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดขึ้นถ้าไม่ฝึกฝนวิชาดาบมาอย่างยาวนาน


ซือตูปู้ฝาน ยืนงงอยู่อย่างโง่เง่าไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เกิดความรู้สึกยากที่จะเชื่อที่เขาจะเป็นรองในการต่อสู้ ชิงสุ่ย มองไปยังการแสดงออกที่โง่งมของเขา


ซือตูปู้ฝาน เคยเห็นวิชาดาบที่ ชิงสุ่ย ใช้โจมตีมาก่อน “ชั้นไม่สามารถชนะมันด้วยมือเปล่าได้เพราะงั้นจึงใช้อาวุธแต่ข้ากลับพ่ายแพ้อย่างรวดเร็วก่อนหน้านั้นมันก็ใช้เพียงแค่หมัดเดียวเท่านั้น” ซือตูปู้ฝานคิด


“อะไรกัน เจ้าเด็กนี่ใช้ทักษะนั้น เป็นไปไม่ได้ ถึงแม้มันจะดูคล้ายกัน แม้แต่ความเร็วและความแรงยังทรงพลัง ดูจากรูปแบบดาบ มันก็ไม่น่าจะใช่” ซือตูปู้ฝาน บ่นพึมพำ


“สารเลวชั้นไม่รู้หรอกว่าแกใช้เวทมนตร์อะไร ลองชิมดาบของชั้นดูหน่อยเป็นไง” คนอื่นๆมองไปยัง ชิงสุ่ย ด้วยความตะลึง หลังจากนั้น ซือตูปู้ฝาน เริ่มใช้เทคนิคการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วขณะที่ปลดปล่อยการโจมตีด้วยดาบไปยัง ชิงสุ่ย


ชิงสุ่ย วิเคราะห์วิชาดาบฝ่ายตรงข้าม จากผิวดาบมีความดุร้ายรุนแรงและดูเหมือนมันกำลังพุ่งตรงมาทางเขา อย่างไรก็ตามอีกฝ่ายกลับก้าวไปด้านข้างและเปลี่ยนทิศทางการโจมตี ชิงสุ่ย รู้ดีว่ามันเป็นแค่การหลอกการจู่โจมจริงๆยังไม่ปรากฎ เขาแกล้งทำเป็นเปิดช่องว่างเพื่อให้เหยื่อโจมตี


ชิงสุ่ยคาดว่าเขาต้องโจมตีมาแน่ “ชาโดว์ อิลูชั่น ซวอร์ส”ฝ่ายตรงข้างคำราม เมื่อดาบอยู่ห่างร่างกายเพียง 3 นิ้ว ชิงสุ่ย หมุนตัวไปด้านซ้ายโดยใช้  ก้าวพริบตา [ของเดิมเป็น ก้าวไร้วิญญาณ Ghostly Steps] พลิกข้อมือของเขาควงดาบไว้ในมือทำให้ขอบดาบคล่ำลงบนพื้น ใช้แรงจากการหมุนตัวตวัดดาบขึ้นกระแทกกับร่างกายของอีกฝ่ายอย่างรุนแรงด้วยความเร็วที่น่าทึ่ง


“ฉับ!”


ชายหนุ่มหมดสติทันที ชิงสุ่ย ยั้งมือ มันง่ายพอๆกับพลิกฝ่ามือ ถ้าเขาต้องการเอาชีวิต


ด้วยความตกใจที่ ชิงสุ่ย เอาชนะสหายของเขา เหล่าผู้เยาว์ไม่สามารถทนต่อไปได้อีก พวกเขาดึงอาวุธออกมาและวิ่งเข้าไปหาชิงสุ่ย


มองไปยังใบหน้าที่กำลังโกรธ ซิงสุ่ย ส่ายหัวอย่างจนใจและเริ่มใช้ ก้าวพริบตา หนึ่งดาบหนึ่งสังหาร ตัวเขาหายไปเป็นเงาเลือนลางโผล่มาฟาดฟันศัตรูที่อยู่ข้างหน้าโดยพริบตา




จบตอน 55

ผักกาด

นิยายลงสัปดาห์ละ 1-2-3 ตอนแล้วแต่อารมณ์ผู้แปลส่วนกลุ่มลับก็มีอยู่แต่ยังไม่ให้คนเข้านะครับ สำหรับตอนที่ 1-49 สามารถอ่านได้ที่โรงงานนรกนะครับ http://www.hellfact.com/novel/ancient-strengthening-technique/

เพิ่มเติม

พอดีเพิ่งหัดทำ Blog ใครเก่งสอนหน่อย